นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กูรูด้านรถยนต์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีน้ำท่วมเกิดขึ้นทุกปี บางพื้นที่ก็ท่วมบ้างไม่ท่วมบ้าง แต่บางพื้นที่สามารถใช้คำพูดว่าท่วมทุกปีได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
สำหรับพื้นที่ซึ่งมีแนวโน้มหรือคาดการณ์ว่าจะมีน้ำท่วม คนที่มีรถต้องพยายามจอดรถในที่สูงเอาไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจอดตอนกลางคืน เพราะน้ำมักจะท่วมในเวลากลางคืนที่ผู้คนพักผ่อน ที่จอดรถชั้นใต้ดิน จึงเป็นพื้นที่อันตราย และแม้จะจอดรถบนพื้นที่สูงแล้วก็ตาม ต้องระวังเรื่องของสัตว์เลื้อยคลานและแมลงต่างๆ ที่อาจจะหนีน้ำท่วมมาอาศัยในห้องเครื่อง หรือในห้องโดยสารด้วย เช่น งู, หนู, แมลงสาป ฯลฯ
เบื้องต้นต้องพยายามย้ายรถหนีไปจากพื้นที่น้ำท่วม หากไม่สามารถหนีไปได้ ให้ยกรถขึ้นสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นเอาแม่แรงมายกรถขึ้น แล้วใช้วัสดุที่แข็งแรง และเหนียว เช่นไม้หรือเหล็กสามขา มาหนุนให้รถลอยขึ้นจากพื้น ทั้งนี้ต้องหลีกเลี่ยงวัสดุที่แข็งแต่เปราะ เช่นก้อนหิน, ก้อนอิฐ และ อิฐบล๊อคเป็นต้น ต้องมั่นใจว่าสิ่งของที่เอามาหนุนตัวรถ หรือหนุนล้อนั้นแข็งแรง และมั่นคง
หาเทปผ้าหน้ากว้าง มาปิดตามรอยแนวประตู และฝากระโปรงห้องเก็บของท้ายรถ แม้ว่าจะมียางขอบประตูป้องกันอยู่แล้วก็ตาม แต่การเอาเทปผ้ามาปิดตามรอยขอบประตู และฝากระโปรง จะช่วยป้องกันน้ำซึมเข้าไปได้เพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่ง สิ่งสำคัญคือหากไม่มั่นใจว่าจะยกรถ หรือจอดรถหนีน้ำท่วมได้พ้น แนะนำให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออก
ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่นกล้องรอบคันรถ เซนเซอร์ที่ใช้กับอะแดปทีฟครุยซ์คอนโทรล ซึ่งมักจะติดเซนเซอร์อยู่ตามบริเวณกันชนรอบรถ และบริเวณกระจังหน้ารถ ถ้าสามารถถอดได้ ให้ถอดออกเก็บไว้ เพราะหากน้ำท่วมถึงอุปกรณ์เหล่านี้ และถูกแช่อยู่ในน้ำ ก็อาจจะเกิดความเสียหายได้
ถ้าน้ำท่วมถึงระดับตัวถัง สำหรับการรักษาสีภายนอก ให้พยายามหาผ้าไปเช็ดตรงที่นำ้ท่วมถึงทุกวัน เพื่อป้องกันน้ำที่มีโคลนผสมอยู่ด้วย พัดเอาโคลนหรือเศษของสกปรกไปเกาะฝังเข้าไปในเนื้อสีของตัวรถ
เมื่อหลังจากผ่านน้ำท่วมไปแล้ว ให้หาที่เป่าลมลมมาเป่าไปให้ทั่วห้องเครื่องยนต์ และตามซอกหลืบต่างๆ โดยเป่าเบาๆไปทั่วๆ เพื่อไล่ความชื้น จากนั้นจึงนำเอาอุปกรณ์ที่ถอดมาประกอบกลับ และเอาข้อต่อปลั๊กต่างๆเสียบกลับเข้าไป เมื่อมั่นใจว่าไล่น้ำ และความชื้นครบถ้วนแล้ว จึงประกอบขั้วเบตเตอรี่กลับเข้าไป แล้วทดลองเปิดสวิทช์ รอดูไฟสัญญาณเตือนต่างๆที่หน้าปัด หากเห็นว่าเป็นปรกติดีแล้วจึงค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์ ขั้นตอนหลังนี้หากไม่มั่นใจ ให้ใช้บริการของช่างหรือศูนย์บริการจะปลอดภัยที่สุดครับ
สุดท้ายสำหรับท่านที่ไม่สามารถทำตามคำแนะนำที่ว่ามาได้ เมื่อน้ำท่วมรถ ให้ถ่ายรูปรถมากมุมที่สุด และถ่ายทุกวันทีน้ำยังท่วมอยู่ หรือเมื่อน้ำมีระดับการท่วมเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะท่วมมากขึ้นหรือน้อยลง ถ่ายไว้จนกว่าน้ำจะลงแห้งสนิท หลังจากนั้นเมื่อแจ้งประกันภัย จะได้มีรูปเป็นหลักฐานเพื่อแสดงถึงความเสียหาย หรือเพื่อให้ช่างได้ประเมินสถานารณ์สำหรับทำการซ่อมครับ