วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใต้การอำนวยการของ นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และนายธนิต สุวรรณากาศ ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 1 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 1 เข้าทำการจับกุม นายสุทธิรักษ์ (สงวนนามสกุล) ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.100/2568 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568

ผู้ต้องหาต้องหาว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4, 11 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 161 รวมถึงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบมาตรา 192
นายสุทธิรักษ์ เคยดำรงตำแหน่งพนักงานการเลือกตั้งปฏิบัติงานระดับกลาง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเลขานุการคนที่ 2 ของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง คณะที่ 17 ของสำนักงาน กกต. ต่อมาได้มีพฤติการณ์ทุจริตเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมคณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว ระหว่างปีงบประมาณ 2554 - 2560 รวมเป็นเงินกว่า 3,512,200 บาท

เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายสุทธิรักษ์ หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 30/1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร จึงได้วางแผนเข้าจับกุม กระทั่งพบตัวผู้ต้องหาบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนฯ 1 แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. พร้อมหมายจับและอ่านให้ฟัง นายสุทธิรักษ์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับมาก่อน
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวไปยัง สน.ทองหล่อ เพื่อทำบันทึกการจับกุม พิมพ์ลายนิ้วมือ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุทธิรักษ์ ส่งให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ซึ่งได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.202/2568 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เรียบร้อยแล้ว