ต้องบอกเลยว่ายังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ จากรายการ โหนกระแส วันนี้ (30 ต.ค. 68) ได้กลับมาติดตามกรณีผู้เสียหายที่ซื้อบ้านในรูปแบบ ผ่อนตรงกับนายหน้า ชื่อ โอ๋ โดยมีคู่กรณีสำคัญทั้งสองฝ่ายมาเผชิญหน้าและชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมของตนเอง ท่ามกลางการวิเคราะห์ของทนายความกลางที่ชี้ว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากการทำธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงของนายหน้า
คุณโอ๋ (นายหน้าขายบ้าน) ได้มาพร้อมกับ ทนายทัศไนย เพื่อชี้แจง โดยเริ่มต้นประเด็นของคุณหญิง (ผู้เสียหายที่ผ่อนบ้านราคา 4.5 ล้านบาท) ที่เคยร้องไห้อ้างว่าถูกโกงและถูกข่มขู่ในเทปก่อนหน้านี้

ภาพจาก youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official
คุณโอ๋ยืนยันว่า คุณหญิงรู้ดีอยู่แล้วว่าบ้านที่ซื้อเป็นทรัพย์สินของธนาคาร ตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากคุณหญิงเป็นฝ่ายติดต่อมาหาเอง พร้อมแสดงหลักฐานว่ามีหนี้สินและไม่สามารถยื่นกู้ธนาคารได้ จึงขอให้คุณโอ๋ช่วยเหลือ โดยคุณโอ๋อ้างว่ามีหลักฐานเป็นแชตข้อความที่คุณหญิงทักมาตั้งแต่วันแรก
คุณโอ๋กล่าวต่อว่า หลังจากตกลงซื้อขายที่ราคา 4.5 ล้านบาท และผ่อนไปได้ระยะหนึ่ง คุณหญิงกลับเป็นฝ่ายผิดสัญญา โดยอ้างว่าได้ "ผู้ใหญ่" มาช่วยเหลือ ทำให้คุณหญิงสามารถนำบ้านไปผ่อนกับธนาคารได้โดยตรงในราคาที่ถูกกว่า คือ 3.7 ล้านบาท
เมื่อเกิดส่วนต่างราคา คุณโอ๋ระบุว่าคุณหญิงต้องนำเงินมาจ่ายคืนให้ตน แต่ในวันไกล่เกลี่ย คุณหญิงไม่มีเงินจ่ายและร้องไห้ ทำให้ตนยอมยกส่วนต่างให้ และให้คุณหญิงทำสัญญายอมความว่าจะไม่ฟ้องร้องอีก ทั้งยังยืนยันว่า ไม่เคยส่งคนไปข่มขู่คุกคาม คุณหญิงตามที่ถูกกล่าวหา หลักฐานที่เปิดเผยเป็นเพียงภาพที่ตนเดินไปถ่ายหน้าบ้านเท่านั้น
ทางด้าน คุณหญิง (ผู้เสียหาย) ได้แย้งในประเด็นนี้ว่า สาเหตุที่ตนหยุดผ่อนจ่ายกับคุณโอ๋เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 เป็นเพราะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาที่บ้านและแจ้งว่าตนกำลังบุกรุก เนื่องจากบ้านเป็นทรัพย์ของธนาคาร ไม่ใช่ทรัพย์ของคุณโอ๋

ภาพจาก youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official
คุณหญิงยืนยันว่า ตนไม่สามารถหาเงินกว่า 1 ล้านบาทมาจ่ายส่วนต่างตามที่คุณโอ๋เรียกร้องได้ จึงตัดสินใจร้องเรียนต่อธนาคารสำนักงานใหญ่ ซึ่งได้มีการไล่บี้เรื่องเพื่อให้ความเป็นธรรม จนสุดท้ายทำให้เธอสามารถได้บ้านหลังนี้มาผ่อนกับธนาคารโดยตรงในราคาที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ คุณหญิงยังโต้แย้งเรื่องหลักฐานแชตที่คุณโอ๋นำมาแสดง โดยยืนยันว่า แชตดังกล่าวถูก "ตัดต่อ" มาจากหลายเหตุการณ์ และตนเองมีหลักฐานแชตเต็มที่ไม่มีการลบ
อีกหนึ่งเคสคือ คุณออย ที่ผ่อนบ้านไปแล้วเกือบ 5 แสนบาท แต่จู่ ๆ ธนาคารมาแจ้งว่ามีคนอื่นมาช้อนซื้อบ้านหลังนี้ไปแล้ว เมื่อย้อนดูสัญญาจึงพบว่าสัญญาที่ทำไว้เป็นบ้านคนละหลังกับที่ตนอาศัยอยู่จริง
คุณโอ๋ยอมรับความผิดพลาดเรื่องสัญญา และยืนยันว่าจะรับผิดชอบ โดยพยายามติดต่อขอซื้อบ้านคืนจากคนที่ช้อนซื้อไป แต่กลับพบว่าผู้ที่ซื้อไปคือ คุณกัน (ผู้เสียหายอีกคนใน EP.1) ซึ่งเคยเป็นคู่กรณีกับคุณโอ๋มาก่อน ทำให้คุณโอ๋ตั้งข้อสงสัยว่าคุณกันเจตนามากลั่นแกล้งหรือไม่
คุณกัน ได้ชี้แจงในรายการว่า ตนก็ถูกธนาคารไล่ที่จากบ้านที่ผ่อนกับคุณโอ๋มาก่อน จึงต้องหาบ้านใหม่ และธนาคารแนะนำบ้านหลังนี้ (บ้านคุณออย) ตนจึงซื้อ ไม่ได้รู้ว่าเป็นบ้านใคร และไม่รู้จักคุณออยมาก่อน จะกล่าวหาว่าตนเจตนาแกล้งคุณโอ๋ไม่ได้

ภาพจาก youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official
ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู (ทนายคนกลาง) ได้สรุปประเด็นทั้งหมด โดยระบุว่า สิ่งที่พูดคุยกันเป็นเพียง ปลายเหตุ ต้นเหตุคือ คุณโอ๋ไปซื้อบ้านที่เป็น ทรัพย์แบงก์ ที่ธนาคารไปซื้อมาจากกรมบังคับคดี ทำเหมือนว่าคุณโอ๋จะซื้อมาอยู่เอง...แต่สุดท้ายคุณเอามาขายคนอื่นต่อ ธุรกิจที่คุณโอ๋ทำ มันเหมือนการ จับเสือมือเปล่า ธนาคารให้เวลาคุณไปปิดยอด 20-24 เดือน ให้คุณอยู่เอง แต่คุณเอามาขายคนอื่นต่อ แล้วได้บอกลูกค้าไหมว่า คุณแค่วางมัดจำมานะ ถ้าฉันผ่อนไม่ไหวเธอเดือดร้อนนะ
ทนายสายหยุดระบุว่า การที่คุณโอ๋แบกภาระบ้านไม่ไหว แล้วนำไปจำนอง หรือวางนอกระบบ แล้วคนที่ซื้อบ้านต่อไปต้องมารับกรรม นี่ต่างหากคือต้นเหตุ ที่ต้องนำมาพูดคุยกัน ด้านคุณโอ๋ได้โต้แย้งว่า ไม่เป็นความจริงที่ตนแบกภาระไม่ไหว โดยยืนยันว่าจากบ้าน 29 หลัง ที่ทำสัญญากับแบงก์ ตนสามารถปิดยอดได้เกือบทั้งหมด และมีหลายเคสที่จ่ายครบหรือจ่ายเกินแล้ว แต่กลับโอนบ้านไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ธนาคารต้องชี้แจง

ภาพจาก youtube : โหนกระแส [Hone-Krasae] official
เรียบเรียงโดย สยามนิวส์