หลังจาก กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ โพสต์คลิปอธิบายเกี่ยวกับ มูลนิธิ กันจอมพลัง ช่วยสู้ ว่าตนไม่ได้เป็นประธานหรือกรรมการ แต่เป็นผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของมูลนิธิ พร้อมระบุว่า การมีคนตรวจสอบภายในองค์กรไม่ใช่เรื่องผิด และการไม่มีชื่ออยู่ในมูลนิธิก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะแต่ละคนมีหน้าที่แตกต่างกัน
ล่าสุด วันที่ 24 ต.ค. 68 มูลนิธิกัน จอมพลัง ช่วยสู้ แถลงข่าวชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับเงินบริจาคเพื่อความโปร่งใส โดย น.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ ระบุว่า สาเหตุที่มูลนิธิออกมาแถลงช้า เนื่องจากตอนแรกสังคมตั้งเป้าไปที่ตัว กัน จอมพลัง โดยส่วนตัว ทั้งประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ ร.อ.ธรรมนัส หรือประเด็นส่วนตัวอื่น แต่เมื่อมีการขยายเรื่องราวมาถึงมูลนิธิ จึงรีบรวบรวมข้อมูลหลักฐานและมาชี้แจงตัวเลขบัญชีของมูลนิธิ โดยระบุว่า มีรายรับทั้งหมด 207,350,262.04 บาท รายจ่ายล่าสุดถึงเมื่อวานนี้ (23 ต.ค. 68) อยู่ที่ 117,673,106.02 บาท คงเหลือ 90,177,156.02 บาท ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสรุปล่าสุดเมื่อวานนี้ แต่วันนี้หน้างานยังมีการดำเนินภารกิจ และมียอดเงินที่ออกไปอยู่เป็นระยะ
ต่อมา ผู้ดูแลตรวจบัญชีได้ชี้แจงกรณีข้อบังคับข้อที่ 39 ที่ระบุว่าหากมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ล้มเลิกไป หลังชำระบัญชีแล้ว จะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เหลือให้ทางมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า โดยระบุว่า เป็นเพียงเจตนารมณ์ทางกฎหมาย เพื่อส่งมอบให้ทางมูลนิธิอื่นที่มีวัตถุประสงค์ใกล้เคียง เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของผู้บริจาคต่อไป ไม่ใช่การเอาเงินให้คนอื่น และการใช้เงินบริจาคของมูลนิธิต้องใช้ตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
ขณะที่ อีฟ ประธานมูลนิธิ ยอมรับผิดและน้อมรับทุกคำติติงของสังคม โดยยอมรับว่าคิดน้อยเกินไป และรีบเกินไปจนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น
ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเบิกเงินสดออกจากมูลนิธิเด็ดขาด เพราะการเบิกเงินสดอาจดูไม่โปร่งใส พร้อมยืนยันว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ไม่เคยมีเงินบริจาคของมูลนิธิกันจอมพลัง ออกไปสู่มูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าแม้แต่บาทเดียว
กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า ได้ประสานไปยังมูลนิธิที่มีความมั่นคงอีกแห่งหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยจะเปลี่ยนข้อบังคับที่ 39 ให้เป็นมูลนิธิที่ทุกคนให้การยอมรับ
กัน จอมพลัง อธิบายว่า ในวันแรกที่ก่อตั้งมูลนิธิชื่อ กัน จอมพลัง เพราะถ้าวันไหนที่ตนไม่อยู่บนโลกแล้ว ชื่อ กัน จอมพลัง จะยังช่วยเหลือสังคมต่อไปได้ และการที่ตนไม่มีชื่อควบคุมบริหารเงินบริจาค ถือเป็นความโปร่งใสในมุมมองของตน แต่หลังจากนี้ เมื่อมีคำถามจากสังคม ตนจะมานั่งเป็นประธานเอง
กัน จอมพลัง ยังระบุว่า ประธานอีฟเป็นคนเก่งและมีศักยภาพสูงมาก จึงมาเป็นประธานมูลนิธิได้ แต่เมื่อสังคมตั้งคำถาม ตนก็จะมานั่งในตำแหน่งนี้เอง