หดหู่ใจ! เผยอีกมุม ตายายขับรถอีแต๊กข้ามจังหวัด แต่ถูกลูกทำร้ายซ้ำ
ข่าวสังคม - โซเชียล

หดหู่ใจ! เผยอีกมุม ตายายขับรถอีแต๊กข้ามจังหวัด แต่ถูกลูกทำร้ายซ้ำ

จากกรณี เรื่องราวสุดสะเทือนใจ ตายายนั่งรถอีแต๊กเดินทางไกลกว่า 120 กม. ไปหาหลานที่ไม่ได้พบหน้ามาหลายปี แต่กลับพบเรื่องราวที่ชวนใจหาย

ความจริงสุดช้ำเผยว่า คุณตาบุญจันทร์ อายุ 87 ปี และยายตุ่น อายุ 78 ปี ที่เดินทางมาหาหลานนั้น ถูกลูกชายคนขับรถอีแต๊กทำร้ายร่างกายตลอดเส้นทาง ดราม่าเดือดเกิดขึ้นเมื่อ นายวีระพล รักเสมอวงศ์ นายกเทศบาลเมืองบ้านดุง ไม่พอใจที่ลูกชายทำร้ายพ่อ จึงต่อว่าและตักเตือนไม่ให้ทำร้ายพ่อแม่อีกครั้ง นายอ๋า ผู้ก่อเหตุ รับปากว่าจะไม่ทำอีก พร้อมไหว้ขอโทษพ่อและแม่

แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 การทำร้ายยังไม่จบ มีการแจ้งจากชาวบ้านว่านายอ๋า เมาเหล้าและทำร้ายตาบุญจันทร์ผู้เป็นพ่อ ผลักอกกลางวงกินข้าวจนล้ม หงายหลัง พร้อมใช้ไม้ตีและขวดแก้วเคาะหัว นายวีระพล รักเสมอวงศ์ นายกเทศบาลเมืองบ้านดุง สารวัตรกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ไปตรวจสอบทันที

เมื่อไปถึง นายอ๋าอยู่ในอาการมึนเมา ถูกถามถึงการทำร้ายพ่ออีกครั้ง นายอ๋าปฏิเสธ บอกว่า ผมแค่เอาไม้เคาะขาเท่านั้น อ้างว่าต้องการเรียกพ่อมาคุยธุระ แต่พ่อไม่หันมามอง จึงโมโหเอาขวดเคาะหัวและไม้เคาะขา เจ้าตัวยอมรับว่าซื้อเหล้าขาวมากิน ทำให้ถูกนายวีระพลฯ และชาวบ้านต่อว่า จนนายอ๋าไม่พอใจ จะคว้ามีดทำร้ายนายกฯ และชาวบ้าน แต่มีคนแย่งมีดได้ทัน

น้องแทน หลานชายของสองตายาย และเพื่อนๆ ยืนยันว่าเห็นนายอ๋าทำร้ายตาต่อหน้าต่อตา ขณะตากำลังกินข้าว อย่างไรก็ตาม นายอ๋ายังไม่ยอมรับว่าทำร้ายพ่อจริงๆ และพูดวกไปวนมาราวกับไม่สำนึก

ต่อมานายคณพศ พิมโคตร นายอำเภอเพ็ญ สั่งให้นายสุวริศร์ สุขเกษม ปลัดอำเภอนำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ไปตรวจสอบหาสารเสพติด ผลตรวจสารปัสสาวะพบสารเสพติด แต่ นายอ๋า ปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้เสพยา พร้อมบอกว่า เครื่องตรวจสารเสพติดไม่ได้มาตรฐาน ต้องให้หมอใหญ่ตรวจให้เท่านั้น ก่อนสุดท้ายยอมรับว่า รุ่นน้องใส่ยาบ้าในกาแฟให้เมื่อ 7 วันที่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงพาตัวไปยัง รพ.เพ็ญ เพื่อตรวจหาสารเสพติดตามความประสงค์ของนายอ๋า

นายบุญจันทร์ พ่อของนายอ๋า กล่าวว่า วันนี้ลูกชายทำร้ายอีกครั้ง เอาไม้ตีขา เคาะหัวด้วยขวด ผลักหน้าอกจนล้มหน้าหงาย ขณะกำลังกินข้าว พ่อกลัวจะถูกทำร้ายอีก จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านบ้านคอนเรียบพาไปแจ้งความที่ สภ.เพ็ญ เพื่อดำเนินคดีกับลูกชายในข้อหาทำร้ายบุพการี ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป