วันนี้ (18 ต.ค. 2568) โรงพยาบาลปลายพระยา ได้แถลงการณ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีญาติผู้ป่วยนำรถจอดกีดขวางรถพยาบาลจนไม่สามารถนำผู้ป่วยขึ้นรถได้ ระบุว่า โรงพยาบาลปลายพระยา และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว เข้ารับรักษาโรงพยาบาลปลายพระยา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 โรงพยาบาลปลายพระยา ขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังปฎิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยดังกล่าว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 23:10 น. ภายในห้องฉุกเฉิน โซนผู้ป่วยวิกฤต เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ พนักงานเปล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กำลังให้การช่วยเหลือ และช่วยชีวิตผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว ซึ่งต้องมีการใส่ท่อช่วยหายใจ หลังจากนั้นย้ายผู้ป่วย เพื่อส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ที่มีศักยภาพการรักษาที่สูงกว่า
เวลา 23:15 น. รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล คันที่จอดปิดท้ายรถพยาบาล นำส่งผู้ป่วยหญิงวัย 69 ปี รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง มีอาการเวียนศรีษะ ตาลาย ญาติเข็นผู้ป่วยหญิงรายนั้นเข้าห้องฉุกเฉินเอง และได้พบกับพยาบาลหัวหน้าเวรห้องฉุกเฉิน ซึ่งกำลังจัดเตรียมเอกสาร และประสานการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตไปโรงพยาบาลกระบี่อยู่ และพยาบาลหัวหน้าเวรได้อธิบายให้ญาติผู้ป่วยทราบว่า ขณะนี้คนไข้อาการหนัก กำลังเตรียมส่งไปโรงพยาบาลกระบี่ ให้รอสักครู่ และให้ญาติเข็นผู้ป่วยไปนอนบนเตียง จากนั้นพยาบาลหัวหน้าเวร ก็ได้เข้าไปซักประวัติ และประเมินอาการผู้ป่วยที่เตียง แต่ญาติก็ยังโวยวาย เรื่องที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลแม่ของตน
เวลา 23:16 น. ขณะเคลื่อนผู้ป่วยฉุกเฉิน ออกจากห้องฉุกเฉิน เพื่อขึ้นรถพยาบาล พบว่ามีรถกระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล จอดกีดขวางปิดท้ายรถพยาบาล ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลได้ หลังจากนั้นพยาบาลได้แจ้งให้เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว มาเลื่อนรถออก แต่ไม่ได้รับความร่วมมือโดยทันที เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว ได้กล่าวเอะอะโวยวายเสียงดัง ด้วยท่าที โมโห เรื่องที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาบริการแม่ของตนเอง ขณะเดียวกันญาติของผู้ป่วยวิกฤตที่กำลังจะส่งต่อ ได้ร้องไห้พร้อมนั่งทรุดลงกับพื้น และยกมือไหว้ ร้องขอให้เจ้าของรถกระบะช่วยเลื่อนรถออก แต่ยังคงมีปากเสียงเอะอะโวยวายกับเจ้าหน้าที่ และญาติผู้ป่วยบริเวณท้ายรถนำส่งผู้ป่วย ตอบเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นถึงจะเดินไปเลื่อนรถกระบะของตนออก เจ้าหน้าที่จึงได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาล เพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลกระบี่ได้
การกระทำของเจ้าของรถกระบะ เป็นการขัดขวางการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในขณะปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องรีบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤติโดยด่วน ซึ่งสุดท้ายผู้ป่วยรายดังกล่าว ได้เสียชีวิต ส่วนผู้ป่วยที่เป็นญาติของเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวแพทย์ได้ทำการตรวจรักษาในห้องฉุกเฉิน จนอาการทุเลา และให้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน โรงพยาบาลปลายพระยา ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวต่อการจากไปของผู้ป่วยและขอยืนยันว่าได้ให้การดูแลรักษาอย่างเต็มความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพตลอดระยะเวลาการดูแลผู้ป่วย