เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2568 ที่สำนักงานทนายความรัชพล ศิริสาคร ถนนประชาราษฎร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี น.ส. มยุรี อายุ 40 ปี เข้าร้องเรียนของความเป็นธรรม หลังถูกนายตำรวจยศ พันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับสืบสวน สถ.แห่งหนึ่ง กลั่นแกล้งต่างๆ นานา ขณะเปิดร้านอาหาร โดยนำชายฉกรรจ์กว่า 12 คน เข้ามาตรวจค้นร้านตนเอง ทั้งๆ ที่ปิดไปแล้ว กว่า 1 อาทิตย์ สาเหตุเพราะตนเองไม่ยอมจ่ายส่วยให้กับทางนักข่าวท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าม้ามาติดต่อขอให้ตนเองจ่ายส่วยให้กับนักข่าวและตำรวจเดือนละ 6,000 บาท ที่ร้ายกว่านั้น นายตำรวจระดับรองผู้กำกับนายนี้ ยังเคยเอาเด็กที่ร้านออกไปหลับนอนและไม่ยอมจ่ายค่าตัวให้เด็ก แถมยังพูดจาข่มขู่จนกระทั่งเด็กมาลาออกกับตนเอง
น.ส.มยุรี เปิดเผยด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆแล้ว พร้อมเล่าอย่างละเอียดว่า หลังจากร้านตนเองปิดกิจการไป กว่า 1 อาทิตย์ ต่อมา วันที่ 17 กันยายน 68 ช่วงเวลา 21.30 น. ตำรวจยศ พ.ต.ท. ได้นำชายฉกรรจ์รวม 12 คน แต่งกายคล้ายตำรวจ เข้ามาตรวจค้นร้านอาหารของตนเอง โดยทั้งหมดเข้ามาพูดจาข่มขู่และขอตรวจค้นร้าน บุกเข้ามาทั้งๆ ที่ร้านปิดกิจการไปแล้ว ปัจจุบันตนกับสามีใช้เป็นสถานที่พักผ่อน จากการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ตนรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะนายตำรวจนายนี้ เคยนำตนเข้าไปใน safe house แห่งหนึ่ง แล้วบอกว่า ทำธุรกิจแบบนี้จะไม่ดูแลตำรวจเลยเหรอ พร้อมทั้งเอ่ยปากขอเงินจำนวน 50,000 บาท ตนเองปฏิเสธว่า เพิ่งเปิดร้านได้เพียง 5-6 เดือน ขอเวลาทำมาหากินก่อน สร้างความไม่พอใจให้กับเขา
หลังจากนั้นมา รองผู้กำกับคนนี้ก็พาลูกน้องมานั่งกิน 2 ครั้ง ครั้งละ 5,000 บาท 8,000 บาท และไม่จ่ายตังค์ บอกกำลังให้ทางร้านดูแล ที่น่าเจ็บใจคือ บังคับข่มขู่เด็กในร้าน ให้ออกไปร่วมหลับนอนและไม่จ่ายค่าตัว จนกระทั่ง เด็กสาวรายนี้กลับมาและขอลาออกจากงานกับตนทันที เนื่องจากถูกนายตำรวจคนนี้ข่มขู่ ขณะนำตัวไปร่วมหลับนอน ตนเองขอเปิดหน้าชน ไม่เกรงกลัวอิทธิพลแล้ว เพราะถูกนายตำรวจระดับรองผู้กำกับคนนี้ บีบคั้นจนไม่มีที่ทำมาหากิน ตนทราบมาว่า ไม่เฉพาะร้านตนเพียงร้านเดียวเท่านั้น รองผู้กำกับคนนี้ ตระเวนเดินสายเก็บส่วยร้านอาหารแบบนี้ทุกร้านในเขตพื้นที่ที่เขารับผิดชอบ
วันนี้จึงต้องเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับทนายรัชพล ให้ช่วยเหลือคดี หลังจากที่ตนเองลงประจำวันไว้ที่โรงพักเมื่อวันที่ 19 กันยายน 68 แต่เกรงว่าตำรวจด้วยกันจะช่วยกัน ส่วนนักข่าวคนที่เป็นหน้าม้ามันเรียกสวยให้กับตนเอง ทราบแต่เพียงชื่อนายสมบัติ ทำเพจ หลังจากที่ตนปฏิเสธไม่จ่ายสวยให้เขา ก็นำเรื่องราวของที่ร้านไปลงในเพจหาว่ามีต่างด้าวบ้าง เปิดเกินเวลาบ้าง ทั้งๆ ที่ร้านของตนมีใบอนุญาตถูกต้อง ปิดเปิดตามเวลาไม่เกินเที่ยงคืน จนรู้สึกเอือมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีตำรวจแบบนี้
ทางด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า เริ่มต้นจะเข้าไปดูรายละเอียดสำนวนคดี เพราะผู้ร้องได้เพียงแค่ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งๆ ที่ประสงค์จะดำเนินคดีกับนายตำรวจคนนี้ ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่ดูเอกสารหลักฐานแล้ว เข้าข่ายมาตรา 157 บุกรุกข่มขู่ การจะเข้าตรวจค้นสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ต้องมีหมายศาล แต่ถ้าเป็นสถานบันเทิง ที่ยังเปิดกิจการอยู่ก็มีอำนาจในการตรวจค้น แต่นี่เขาปิดกิจการไปแล้ว ถือว่าเป็นสถานที่ส่วนบุคคลไม่สามารถเข้าไปตรวจค้นแบบนี้ได้ ตนมองว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการกระทำที่เกินเลยผิดกฎหมาย จะพาผู้เสียหายไปร้องขอความเป็นธรรมที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ดำเนินการใน ช่วยเหลือในเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี รายงาน