วันที่ 20 กันยายน 2568 บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร กลุ่มเดอะเรส FC เพื่อไทย นำโดยนายนิยม นพรัตน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เค สามถุยส์ พร้อมกลุ่มมวลชนผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งกำลังใจให้กับนายทักษิณซึ่งถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำ

นายนิยม กล่าวถึงการรวมตัวครั้งนี้ว่าเป็นการรวมกลุ่มของคนเสื้อแดงหลายกลุ่ม เพื่อร่วมกันส่งเสียงถึง กำแพงแห่งความอยุติธรรมของประเทศไทย และยืนยันว่ากิจกรรมจัดขึ้นเพื่อแสดงความรัก ความศรัทธาต่อนายกรัฐมนตรีที่เคยสร้างประโยชน์แก่ประชาชน โดยกล่าวว่า แม้เสียงของเราอาจจะไม่ดังแต่เชื่อว่าหัวใจของคนเสื้อแดง จะส่งไปถึงท่านที่อยู่หลังกำแพง

เขายังแสดงความห่วงใยต่ออดีตนายกฯ โดยชี้ว่ากระบวนการยุติธรรมควรกล้าที่จะยอมรับว่า นายทักษิณไม่ได้ทำผิด พร้อมย้ำว่าสิ่งที่ทำให้นายทักษิณถูกคุมขัง มาจากการรัฐประหารปี 2549 ซึ่งตั้งหน่วยงานขึ้นมาเอาผิด ขณะที่นโยบายอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค และ บ้านเอื้ออาทร กลับช่วยเหลือประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งการปราบปรามยาเสพติดที่ทำให้สังคมปลอดภัยขึ้น

แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นการทำให้ท่านติดคุก แต่คนที่ปล้นอำนาจของประชาชน ยึดอำนาจของประชาชน สั่งยิงประชาชนกลางเมืองหลวง ไม่เห็นมีใครติดคุกแม้แต่คนเดียว นายนิยม กล่าว พร้อมตั้งคำถามถึงความยุติธรรมในสังคมไทย

สำหรับรูปแบบกิจกรรม ได้มีการเปิดเพลงที่นายทักษิณเคยร้องไว้ รวมถึงจัดเวทีปราศรัยโดยแกนนำ นปช.รุ่นเก่า พร้อมเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่ผู้ยึดสนามบินและสถานีวิทยุโทรทัศน์ของรัฐถูกยกฟ้อง แต่กลับมีคำตัดสินจำคุกนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง

เขาย้ำว่าจะปักหลักจนกว่านายทักษิณได้รับอิสรภาพ โดยระบุว่าการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต้องผ่านการขออนุญาตหลายขั้นตอน และพยายามทำกิจกรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย แม้จะถูกตำรวจเข้ามาควบคุมดูแลก็ตาม ทั้งยังเปรียบเทียบว่าการชุมนุมของกลุ่ม คปท. เคยสร้างความเดือดร้อนด้านการจราจร แต่กลับไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้ยุติ

นายนิยม กล่าวต่อว่า ทุกอย่างไม่ได้ผิดที่อะไร ผิดที่ตนใส่เสื้อสีแดง ประเทศนี้ใส่เสื้อสีแดงทำอะไรก็ผิด พร้อมยกตัวอย่างว่าคดีที่ตระกูลชินวัตรยื่นฟ้องศาล ศาลกลับรับเรื่อง แต่เมื่อตนเองร้องเรียนถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ศาลกลับปัดตกโดยอ้างว่า ร้องผิดช่องทาง

ขณะเดียวกัน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำเสื้อแดง ได้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมกล่าวว่า วันนี้คนที่เคยติดคุกย่อมรู้หัวใจของคนติดคุกดี ซึ่งกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พร้อมยืนยันว่าการมารวมตัวกันครั้งนี้เป็นไปด้วยใจ ไม่มีการจัดตั้งหรือจ่ายเงิน และเห็นว่านายทักษิณยอมรับคำตัดสินของศาลด้วยหัวใจที่เด็ดเดี่ยว

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในลักษณะ กินอาหารนอกเรือนจำ โดยผู้ร่วมกิจกรรมเลือกนั่งรับประทานอาหารช่วงบ่ายสามโมง เพื่อสื่อสารว่านายทักษิณไม่ได้ทานอาหารเพียงลำพัง โดยเมนูหลักคือส้มตำ พร้อมเครื่องดื่มน้ำแดงที่สื่อถึงกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนเริ่มรับประทาน ทุกคนได้ยกแก้วน้ำแดงขึ้นพร้อมเปล่งเสียง ไชโย และ เรารักทักษิณ 3 ครั้ง เพื่อแสดงพลังใจ

ด้านนายวรชัย ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ของการพักโทษว่า นักโทษที่มีอายุมากกว่า 70 ปี จะได้รับสิทธิพักโทษ 1 ใน 4 ของโทษ โดยกรณีของนายทักษิณที่ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี จะเหลือโทษ 4 เดือน แต่ต้องถูกคุมขังอย่างน้อยครึ่งหนึ่งก่อน จึงจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์

เวลาประมาณ 15.30 น. มวลชนได้นั่งปูเสื่อบริเวณริมทางเท้า พร้อมร่วมรับประทานส้มตำและน้ำแดงร่วมกัน เพื่อสื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวและการส่งกำลังใจให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี

ตลอดการทำกิจกรรม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ประชาชื่น คอยอำนวยความสงบเรียบร้อยที่ริมถนนงามวงศ์วาน ขณะที่ด้านในเรือนจำ มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด