เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา พ.ต.ต.บัญชา สาระปัญญา สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจาก นางสุขศรี อายุ 68 ปี ชาวบ้านตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ว่า หลานชายมีอาการคลุ้มคลั่ง หลังหลบหนีออกจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ที่เจ้าหน้าที่นำตัวไปรับการบำบัดรักษาเนื่องจากติดยาเสพติด ก่อนจะกลับมาอาละวาดในบ้านอีกครั้ง
หลังรับแจ้ง พ.ต.ต.บัญชา พร้อมด้วย นายสัญญา แย้มบุปผา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขต 5 และ นายวันชัย สีทองอ่อน เดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวในพื้นที่
เจ้าหน้าที่เคาะประตูเรียก นายเอ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่ง จนเจ้าตัวยอมเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้างุนงงและสอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีเหตุอะไร เจ้าหน้าที่จึงสอบถามถึงพฤติกรรมโยนสิ่งของใส่บ้านผู้อื่น แต่นายเอ ปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้ทำอะไรและเพิ่งกลับจากโรงพยาบาลมานอนพักในบ้านเท่านั้น
นางสุขศรี ผู้เป็นป้าให้ข้อมูลว่า นายเอ เคยเสพยาบ้า แต่ภายหลังเปลี่ยนมาสูบกัญชาและดื่มเหล้าขาวแทน เมื่อมึนเมาจะมีพฤติกรรมอาละวาด เคยนำตัวไปรักษาแต่ไม่หาย เนื่องจากนายเอ ไม่ยอมกินยาอย่างต่อเนื่องและในช่วงหลังมีอาการคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง
เมื่อหลายวันที่ผ่านมา นายเอ อาละวาดจน นางรัศมี อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่ต้องแจ้งตำรวจให้นำตัวส่งโรงพยาบาล แต่หลังกลับจากโรงพยาบาล นายเอกลับมาบ้านและมีพฤติกรรมรุนแรงอีก โดยถามหาบ้องกัญชา พร้อมขู่จะทำร้ายแม่จนต้องหนีไปพักบ้านญาติและในวันนี้ยังมาถามหามีด พร้อมใช้ก้อนหินขว้างใส่บ้านของตน
นางสุขศรี ยังกล่าวว่า เลี้ยงนายเอ มาตั้งแต่เด็ก แต่พฤติกรรมล่าสุดไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ
หลังจากสอบถามและประเมินสถานการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายเอ ขึ้นรถกระบะเพื่อนำส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาอาการทางจิตเวชตามขั้นตอนต่อไป