วัดบางคลาน เเจงเเล้ว กรณีมีข่าวเงินวัดหาย 30-40 ล้าน เผย ข้องใจบิ๊กเต่า
ข่าวสังคม - โซเชียล

วัดบางคลาน เเจงเเล้ว กรณีมีข่าวเงินวัดหาย 30-40 ล้าน เผย ข้องใจบิ๊กเต่า

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 นายพร ปั้นเพ็ง เลขานุการมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน อดีตไวยาวัจกร วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ์ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เงินวัดบางคลาน จากเดิมมี 105 ล้านบาท และในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาเงินได้หายไป 30 - 40 ล้านบาท ตนเองมองว่า ที่ผ่านมา เมื่อปี 2565 - 2566 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ์ พร้อมคณะ ได้เข้ามาตรวจสอบที่วัดบางคลานแล้วทุกอย่าง

ซึ่งทางวัดและมูลนิธิฯ ได้มอบเอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ทุกอย่าง ให้กับคณะทำงานของท่านบิ๊กเต่า (ปปป.) ได้ตรวจสอบร่วมกับทีม 18 อรหันต์ ไปหมดแล้วขณะนั้น แม้แต่ ปปท. ปปช. หรือ ดีเอสไอ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีการมาตรวจสอบ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อนหน้านี้ ที่ สภ.โพทะเล ด้วยขบวนการได้มีการยกคำร้องทั้งหมดไปแล้ว เนื่องจากทางมูลนิธิฯและทางวัดไม่มีความผิด สามารถชี้แจงได้ทุกอย่างด้วยความโปร่งใส

แต่มามี ปี 2566 - 2567 ปปป. โดยการนำของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ์ เข้ามาจัดตั้งคณะทำงานด้วยการแต่งตั้งคณะ 18 อรหันต์เพื่อแก้ปัญหา ประกอบไปด้วย สท ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เข้ามาตรวจสอบในเรื่องบัญชีเงิน วัด และมูลนิธิฯ ทุกซอกทุกมุมเอกสารทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคล ซึ่งได้ตรวจสอบจนหมดสิ้น ทั้งของวัด และมูลนิธิฯ มีเงินอยู่ตรงไหน ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วตรงนั้นก็ไม่พบการกระทำผิดอะไร ซึ่งขวนการเสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อกลางปี 2567 ที่ผ่านมา

จากนั้นวัดได้จัดงานอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมต่าง ๆ มาหลายครั้งเพื่อสร้างความสามัคคี ไม่มีเหตุอะไรซึ่งเงียบสงบดี มีพุทธศานิกชนมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อเงินอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาศาสนะสถานอย่างอย่างเนื่องทำให้ร่มรื่นเงียบสงบ

สำหรับการที่มาออกมาให้ข่าวกันแบบนี้ ว่าเงินที่หายจากมูลนิธิไป 30 - 40 ล้าน จึงขอชี้แจงว่า ทางมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน เป็นนิติบุคลตามกฎหมาย ฉะนั้น คนที่จะแจ้งความได้ ก็จะต้องเป็นมูลนิธิ เป็นผู้ร้องทุกข์ ดังนั้น ถ้าเป็นคดีฐานยักยอก ตำรวจจะมีอำนาจมาสอบสวน ก็ต่อเมื่อมีคำร้องทุกข์จากมูลนิธิ แต่นี่เงินไม่ได้หาย แล้วมาบอกว่าหายไป

ดังนั้น ถึงแม้ว่าผมจะเป็นไวยาวัจกรวัด แต่ไม่ได้ดูแลเรื่องการเงินการบัญชี เมื่อมีการประชุม จึงรับทราบทุกเรื่องเกี่ยวกับวัด แต่ผู้ร้องเรียนนั้น เคยเป็นรักษาการอดีตไวยาวัจกรมาก่อน ได้เข้าประชุมรับทราบเหมือนกัน และยังทำหน้าที่ควบคุมดูแลเรื่องวัตถุมงคลของวัดด้วย เมื่อเขาพ้นสภาพจากไวยาวัจกรไป เขาได้ทำหน้าที่มอบวัตถุมงคลหรือเปล่า ดังนั้น ขอถามท่านบิ๊กเต่า ได้เข้าไปตรวจสอบผู้ร้องเรียนหรือยัง อยากทราบตรงนี้