ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 24 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา ตามโลกโซเชียลในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้แห่แชร์คลิปแม่ค้าชาวเมียนมาตีกันกลางตลาดสดพาเจริญ ในพื้นที่ย่านการค้าใจกลาง อ.แม่สอด ซึ่งในวันแรก ( 23 ส.ค.68 ) มีการตีกันดึงผมกันนัวเนียแล้วเอ่ยด้วยภาษาพม่าฟังไม่ได้ศัพท์ ซึ่งมีผู้หญิงชาวเมียนมาทราบว่าขายพริกด้วยกันทั้งคู่คนหนึ่งหัวดำ คนหนึ่งหัวแดง ผมเผ้าหยุงเหยิงรุงรัง จับโอกาสเหมาะมีเจ้าหน้าที่ทหารราชมนูซึ่งมาซื้อเสบียงในทุกวันได้มาเห็นเหตุการณ์ จึงได้จับทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกัน

แต่เรื่องยังไม่จบ มีศึกวันชิงดำนัดล้างแค้นระหว่าง 2 ฝ่าย ครั้งนี้หนักกว่าเดิม ถึงขั้นยกพวกมาชำระแค้น ลากทั้งเหล็ก มีด พูดจายั่วยุ ก่อความเดือดร้อนให้คนไทยหรือประชาชนทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาที่มาจับจ่ายซื้อสินค้ากัน จนทำให้มีผู้หวังดีโทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ทาง พ.ต.อ.รัง ดาวดึงษ์ ผู้กำกับการ สภ.แม่สอดทราบเรื่องเร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ลงพื้นที่ควบคุมตัวดำเนินการตามกฎหมายทันที
พอตำรวจไปถึงยังจุดเกิดเหตุ พบคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย กำลังทะเลาะวิวาทกันใหญ่โต รถติดผ่านไปมาไม่ได้ตำรวจต้องเข้าห้ามปรามพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สัญจรไปมา แต่ยังคงมีไทยกับเมียนมามุง จนรถติดเป็นอัมพาตหนัก จากการสอบถามเบื้องต้นเหตุทะเลาะวิวาทดังกล่าวเกิดขึ้นจาก เรื่องติดค้างค่าซื้อขายพริก เมื่อนางเมตาซายเข้าไปทวงถามเงินค่าพริกจากนางโมโมกี่ กลับมีการพูดจาเยาะเย้ยถากถางกัน ทำให้ไม่พอใจกันทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างจึงใช้ไม้ เหล็ก อุปกรณ์ที่หยิบได้ที่แผงขายพริก วิ่งเข้าไปไล่ทำร้ายกัน นอกจากนี้ยังมีชายและหญิงชาวเมียนมา อีกจำนวนหลายคนได้เข้าร่วมตะลุมบอน จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทราบชื่อต่อมาคือฝ่ายแดง

1.นางเมตาชาย ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมา เจ้าหนี้ทวงถามค่าพริก อายุ 35 ปี จับกุมข้อหา ร่วมกันทะเลาะวิวาท อย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถานหรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย ในทาง สาธารณะ
2.นางกี่ซวยมู ไม่มีชื่อสกุล อายุ 33 ปี สัญชาติเมียนมา จับกุมข้อหา ร่วมกันทะเลาะวิวาท อย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถานหรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย ในทาง สาธารณะ และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.นางขิ่นซานอู ไม่มีชื่อสกุล อายุ 44 ปี สัญชาติเมียนมา จับกุมข้อหา ร่วมกันทะเลาะวิวาท อย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถานหรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย ในทาง สาธารณะ และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิที่ได้รับอนุญาต ส่วนฝ่ายน้ำเงิน
4.นางโมโมกี่ ลูกหนี้ถูกทวงค่าพริก ไม่มีชื่อสกุล อายุ 35 ปี สัญชาติพม่า จับกุมข้อหา ร่วมกันทะเลาะวิวาทอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถานหรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย ในทางสาธารณะ
5.นางซานซานทวย ไม่มีชื่อสกุล อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา จับกุมข้อหา ร่วมกันทะเลาะ วิวาทอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถานหรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย ในทางสาธารณะ และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิที่ได้รับอนุญาต
และ6.นางทายทายอาว ไม่มีชื่อสกุล อายุ 31 ปี สัญชาติพม่า จับกุมข้อหา ร่วมกันทะเลาะวิวาท อย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถานหรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อย ในทางสาธารณะ
จึงได้ดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ส่ง พ.ต.ต.บุญเลิศ ทิพย์ศรีบุตร สารวัตรสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ตาก รายงาน