ชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง เพราะแห่อพยพแล้ว ไม่วางใจในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ข่าวสังคม - โซเชียล

ชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง เพราะแห่อพยพแล้ว ไม่วางใจในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ที่โรงเรียนในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ได้มีการแจ้งให้ผู้ปกครองมารับลูกหลานกลับบ้านก่อนเวลาเลิกเรียน ทำให้ในพื้นที่เกิดความตกใจเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 2

ต่อมา ทางเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้มีการออกมาชี้แจงว่าในพื้นที่อำเภอน้ำยืนไม่ได้มีการปะทะกันตามที่มีการโพสต์ในโลกออนไลน์แต่อย่างใด ขอให้ฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง บางส่วนได้มีการย้ายตัวเองออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยที่บ้านญาติ หรือ ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในอำเภอเดชอุดม เพื่อความปลอดภัย และความสบายใจในครอบครัว

จากการตรวจสอบในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (22 ส.ค. 68) จนถึงเวลาประมาณ 21.30 น. พบว่าบรรยากาศในตัวอำเภอน้ำยืนและหมู่บ้านใกล้เคียงช่องบก ช่องอานม้า เงียบสงบไม่ค่อยมีรถสัญจรเหมือนก่อนหน้าส่วนใหญ่จะเป็นรถของทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ชรบ ของหมู่บ้านที่ออกตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบ

นางกชพร ธรรมโม อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้านน้ำยืน กล่าวว่าสถานการณ์เริ่มแรกเกิดจากโรงเรียนในพื้นที่ ประกาศให้ผู้ปกครองไปรับนักเรียน เดิมเรามีแผนเรียนถึงแค่ 15.00 น แต่โรงเรียนให้ไปรับก่อนเวลาช่วง 14.00 น ทำให้ผู้ปกครองกังวลใจบางรายถึงขั้นย้ายไปนอกพื้นที่

นางกชพร บอกอีกว่า ตอนนี้มีผู้ที่ย้ายออกนอกพื้นที่ยังไม่ถึง 100 คน จาก 2 หมู่บ้าน สาเหตุที่ย้ายออกเพราะบ้านอยู่หน้าด่านชาวบ้านจึงรู้สึกกลัว เกิดความกังวลใจในความไม่สงบหากมีการปะทะกันขึ้นจะหลบหนีออกจากพื้นที่ไม่ทัน

ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังอยู่ในพื้นที่คอยโทรสอบถามสถานการณ์ว่ายังสามารถอยู่ได้หรือไม่ จะออกได้ตอนไหนซึ่งเบื้องต้นตอนนี้ยังไม่มีประกาศให้อพยพออกนอกพื้นที่ ขอให้ทุกคนต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ต้องรอฟัง ข่าวสารจากทางราชการอีกครั้ง