เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2568 ที่บ้านพัก หมู่ 13 บ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของพลทหารวสันต์ ขานหัวโทน อายุ 22 ปี หรือ เอสโซ่ พลทหารค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ (ร.13 พัน 3) จ.อุดรธานี เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดนจ.ศรีสะเกษ และมีกำหนดเคลื่อนศพจาก มทบ.25 มายัง มทบ.24 ในวันนี้ (19 ธ.ค.68) ก่อนจะเคลื่อนไปยังวัดทุ่งสว่าง บ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เวลา 15.30 น.
ตลอดทั้งวัน ที่บ้านของพลทหารวสันต์ มีชาวบ้าน และทหารจากค่ายพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ เดินทางมาเตรียมสถานที่ และให้กำลังใจของคุณยายบุญปัน และแม่ของพลทหารวสันต์ตลอดทั้งวัน และเตรียมฌาปนกิจศพที่วัดทุ่งสว่าง ในวันจันทร์ที่ 22 ธ.ค.68
สำหรับครอบครัวของพลทหารวสันต์ ทราบว่าพ่อแม่แยกทางตั้งแต่เด็ก มีคุณยายบุญปัน และป้าช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจน ทำให้พลทหารวสันต์ต้องดิ้นรน ทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อนจะสมัครไปเป็นพลทหารเมื่อปี66 จะครบ 2 ปีในเดือน เม.ย.69 แต่ต้องมาเสียชีวิตก่อนเป็นทหารกล้าพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย
นางทองขัน วิชัยวงศ์ อายุ 40 ปีแม่ของพลทหารเอสโซ่ เผยกับนักข่าวว่า ตนเองมีลูก 2 คน เอสโซ่เป็นลูกคนเล็ก ส่วนชื่อเอสโซ่ พี่สาวเป็นคนตั้งให้ และเรียกชื่อนี้มาตั้งแต่แรกเกิด โดยในวัยเด็ก น้องเอสโซ่ถือเป็นเด็กที่ค่อนข้างดื้อ เลี้ยงยากตามประสาเด็กผู้ชาย อีกทั้งครอบครัวมีฐานะไม่สู้ดีนัก ทำให้ลูกชายต้องเผชิญกับความลำบาก และเรียนรู้การสู้ชีวิต ตั้งแต่อายุยังน้อย

ส่วนในด้านการศึกษา น้องเอสโซ่เรียนระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนที่บ้านเทื่อม แต่ช่วงชั้น ป.6 มีพฤติกรรมเกเร ทำให้เรียนไม่จบในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม ลูกชายไม่ยอมแพ้ กลับมาตั้งใจเรียนต่อในระบบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) จนสำเร็จการศึกษา แม้ยังไม่ได้เข้ารับวุฒิอย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องออกไปทำงานช่วยเหลือครอบครัว
กระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา น้องเอสโซ่ได้เข้ามาปรึกษาแม่ว่า อยากสมัครเข้ารับราชการทหาร เพื่อรับใช้ชาติ ได้เงินเดือน จะได้ส่งมาให้ยาย และสร้างบ้านเอาไว้อยู่ด้วย และหากจบเป็นพลทหารอยากเรียนต่อเป็นนายสิบ แม่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนั้น แม่ดีใจมากจากเด็กดื้อ ทหารทำให้เขาเปลี่ยนวิธีการคิด และการใช้ชีวิตได้ จากเด็กดื้อมีระเบียบวินัย และคิดถึงอนาคต เขาบอกว่าเป็นทหารแล้วเปลี่ยนชีวิตหลายอย่าง อยากเป็นทหารอาชีพ จะไปเรียนนายสิบ แต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิต แม้จะเสียใจ แต่ก็ภาคภูมิใจในตัวลูกชายอย่างมาก
ช่วงที่เป็นทหาร ลูกชายโทรศัพท์ก็จะโทรมาแจ้งข่าวคราวกับครอบครัวอยู่เสมอ เดิมทีลูกชายบอกว่าอาจได้มาเป็นครูฝึกอยู่ในพื้นที่จ.อุดรธานี แต่ภายหลังถูกเรียกตัวไปประจำการในหน่วยปัจจุบัน แต่ไม่ค่อยได้ใช้เวลาอยู่กับลูก เนื่องจากต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว การพูดคุยจึงเป็นการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์เป็นหลัก
สำหรับการสนทนาครั้งสุดท้าย เมื่อวันก่อน ลูกชายโทรมาขอเงินจำนวน 100 บาท เพื่อเติมอินเทอร์เน็ต หลังจากโอนเงินให้แล้ว ตนได้กำชับให้ลูกดูแลตัวเอง ซึ่งน้องเอสโซ่ตอบกลับมาว่า ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ผมอยู่ดีสบายดี โดยไม่คิดเลยว่า จะเป็นคำพูดสุดท้ายที่ลูกชายบอกเพื่อให้แม่สบายใจ หลังจากได้รับแจ้งข่าวการสูญเสียในช่วงบ่ายวันก่อน แม้หัวใจของคนเป็นแม่จะแตกสลาย แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกภูมิใจอย่างที่สุด ที่ลูกชายได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมเกียรติ และเป็นเกียรติสูงสุดของครอบครัววิชัยวงศ์” หัวอกคนเป็นแม่พูดไปน้ำตาคลอและปาดน้ำตา
สำหรับการจัดงานพระราชทานเพลิงวีรบุรุษพลทหารวสันต์ ขานหัวโทน จะจัดขึ้นที่วัดทุ่งสว่าง ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยมีชาวต.เขือน้ำ ร่วมกับหน่วยทหารต้นสังกัด พร้อมพระสงฆ์ได้ร่วมกันเตรียมพื้นที่วัดทุ่งสว่างบ้านเทื่อม เพื่อเตรียมพิธีรับร่างวีรบุรุษทหารกล้ากลับสู่บ้านเกิด โดยร่างของพลทหารวสันต์ จะกลับถึงมาตุภูมิในวันนี้ เวลา 15.30 น. และตั้งบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติวีรบุรุษชายชายติทหาร และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงฯ กำหนดไว้วันที่ 22 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
