ชาวบ้านบุรีรัมย์ ในศูนย์อพยพ เครียดหนัก เจ้าหนี้-ไฟแนนซ์ โทรตามวุ่น
ข่าวภูมิภาค

ชาวบ้านบุรีรัมย์ ในศูนย์อพยพ เครียดหนัก เจ้าหนี้-ไฟแนนซ์ โทรตามวุ่น

วันที่ 18 ธ.ค.2568 หลังสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา ที่เกิดเหตุปะทะต่อเนื่อง จนมาถึงตอนนี้ผ่านมาแล้วกว่า 10 วัน จากการตรวจสอบชีวิตความเป็นอยู่ของผู้อพยพที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ยังพบว่าภาพรวมการดูแลเป็นไปอย่างเป็นระบบ ชาวบ้านมีที่พัก อาหารครบถ้วน รวมถึงบริการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ บริการตัดผมฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อพยพเป็นอย่างดี

แต่เมื่อสอบถามความรู้สึกของผู้อพยพที่ต้องจากบ้านมาเป็นเวลากว่า 10 วัน เสียงสะท้อนส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวกัน คือ ความคิดถึงบ้านและความกังวลเรื่องหนี้สิน หลายครอบครัวเป็นห่วงบ้านเรือน สัตว์เลี้ยง และภาระค่าใช้จ่ายที่ยังคงเดินต่อ แม้รายได้จะหยุดชะงัก โดยเฉพาะเจ้าหนี้นอกระบบและไฟแนนซ์รถมอเตอร์ไซค์ ,รถยนต์ เริ่มติดต่อทวงถามทางโทรศัพท์กันจ้าละหวั่น

ชาวต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย เปิดเผยว่า พาครอบครัว ลูกเล็ก และแม่วัย 83 ปี มาอาศัยอยู่ศูนย์พักพิงจนถึงวันนี้เกินกว่า 10 วันแล้ว สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือเรื่องหนี้สิน เนื่องจากไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ประจำ เงินจากสวัสดิการบุตรเดือนละ 600 บาท และเบี้ยผู้สูงอายุ 800 บาท ถูกใช้จ่ายจนหมด

ขณะนี้เริ่มมีเจ้าหนี้ไฟแนนซ์รถโทรศัพท์มาทวงหนี้ หลังค้างชำระมาแล้ว 2 งวด และกำลังจะเข้าสู่งวดที่ 3 พร้อมขู่ว่าจะยึดรถ ทำให้เกิดความเครียดอย่างมากถ้าเขาจะยึดก็คงต้องปล่อย เพราะสถานการณ์ยังไม่จบ อยากให้เหตุการณ์สงบเร็ว ๆ จะได้กลับไปทำงาน หาเงินมาจ่ายหนี้ 

ด้านชาวต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด ซึ่งอพยพมาตั้งแต่วันแรก เล่าว่า ระหว่างที่พักอยู่ที่ศูนย์อพยพ ได้มีธนาคารโทรมาทวงหนี้ ตนตอบไปว่า อยู่ที่ศูนย์อพยพ ยอมรับธนาคารเข้าใจเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า ขอโทษครับ ขอโทษคะ แต่หนี้นอกระบบและไฟแนนซ์รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทราบข่าวจากชาวบ้านทั่วไปที่มาพักด้วยกันว่าเขาไม่ยอมมิเช่นนั้นจะยึดรถ

ตอนนี้ผ่านมาแล้วเลยกว่า 10 วัน เริ่มปรับตัวและยอมรับสถานการณ์ได้ แม้จะจากบ้านมาอยู่ศูนย์พักพิงโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็อยากให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็ว เพื่อจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ยังคงเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงและการทำมาหากิน

เมื่อสอบถามถึงความกังวล หากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป นางบุญชื่นยอมรับว่า จะกระทบอย่างหนักต่อการดำรงชีวิตคนรับจ้างอย่างเรา มีหนี้ต้องจ่าย ไม่ได้ร่ำรวยอะไร อยากให้จบแบบจบจริง ๆ ไม่ใช่อีกสองสามเดือนกลับมาปะทะใหม่ ถึงแม้จะสงบแล้ว ก็ยังกังวลว่าจะกลับไปทำงานกรีดยาง รับจ้าง ปลูกมัน ได้เหมือนเดิมหรือไม่ นางบุญชื่นกล่าวทิ้งท้าย