เมื่อช่วงเย็น วันที่ 16 ธ.ค. 2568 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 เป็นชุดที่ 6 เข้ามาในพื้นที่ชายแดนปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก เป็นชุดสุดท้ายในช่วงตลอดวันที่ผ่านมา หลังจากเวลาประมาณ 17.02 น.เครื่องบินรบ F-16 บินเข้าไปทิ้งระเบิดอีกครั้ง ก่อนเสียงปืนจากกัมพูชาจะเงียบไป โดยเครื่องบินรบ F-16 บินเข้ามาในพื้นที่หลายรอบตลอดทั้งวัน นอกจากจรวด BM-21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาดังกล่าว ก็ยังมีปืนใหญ่ชนิดอื่นๆ ที่กัมพูชาพยายามยิงเข้ามาในพื้นที่ ชายแดนปราสาทตาควายและช่องกร่าง ทิ้งระยะห่างๆ แต่ตลอดทั้งวัน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย

ขณะที่ปืนใหญ่ไทย ยังคงยิงตอบโต้เป็นระลอกๆ ตลอดทั้งวันเช่นกัน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ทหารไทยจะยิงตอบกลับมากกว่าฝั่งกัมพูชาตลอดทั้งวันนี้ ก่อนจะเงียบหายไปหลังจากเครื่องบินรบ F-16 บินเข้าไปทิ้งระเบิด และได้ยินเสียงปืนใหญ่เบาบางทิ้งห่างลงในช่วงกลางคืน

ส่วนที่ชายแดนช่องจอม ช่องระยุ ช่องปลดต่างและชปราสาทคนา อ.กาบเชิง พบว่าส่วนใหญ่เสียงปืนใหญ่จากไทยยิงใส่เป็นระลอก มากกว่าเช่นกัน แต่ จรวด BM-21 ก็ถูกยิงเข้าในพื้นที่ ต.กาบเชิง และ ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง เช่นกัน ส่วนใหญ่ตกตามป่า ไร่น่า และริมน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยตาเกาว์ ต.กาบเชิง

ขณะที่หมู่บ้านด่านพบคลิปวงจรปิดในหมู่บ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับตลาดชายแดนช่องจอม ถูกกระสุนปืนกลพุ่งตกลงมาใส่หลังคาบ้านและหน้าต่างกระจกทะลุเป็นรูเสียหายหลายจุด คาดว่าน่าจะเสียหายหลายหลัง หลังทราบว่าทหารกัมพูชาพยายามยิงปืนกลสาดเข้ามาอย่างไร้เป้าหมาย หวังให้กระสุนปืนเข้ามาทำลายชุมชนและชีวิตคนไทยที่ยังอยู่ในพื้นที่ให้มากที่สุด คาดว่าจะเกิดจากด้วยความโกรธ แค้นที่ทหารไทยยิงปืนใหญ่ทำลายฐานทหาร คลังอาวุธ รวมทั้งอาวุธหนักต่างๆ และบ่อนกาสิโน ฝั่งโอรเสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย จนเสียหายหลายจุดตามในคลิปดังกล่าว โดยในคลิปวงจรปิดพบสุนัขหลายตัววิ่งหนีกระสุนที่พุ่งเข้าไปใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างชัดเจนอีกด้วย ส่วนความเสียหายจากปืนกลกับบ้านหลังอื่นอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ขณะที่เสียงปืนเริ่มสงบ พบชาวบ้านจิตอาสาและชุด ชรบ.ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีพื้นที่อยู่ระหว่างกลางพื้นที่ปราสาทคนาและปราสาทตาควาย ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและต้องอยู่ในหลุมหลบภัยตลอดเวลาช่วงการปะทะกันหนัก โดยใช้ท่อลอดน้ำของลำห้วยเป็นหลุมหลบภัยและเป็นที่อยู่อาศัย และคอยเวลาช่วงที่เสียงปืนจากการปะทะกันเงียบลง จึงออกจากหลุมหลบภัยและเร่งช่วยกันทำกับข้าวเพื่อรับประทานร่วมกัน

โดยชาวบ้านในพื้นที่ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ายิงกันหนักมากเพิ่งหยุดไปเมื่อสักพัก แต่เมื่อวานหนักกว่านี้ วันนี้ต้องดูช่วงบ่ายอีกที ซึ่งตรงนี้จะได้ยินเสียงปืนใหญ่ชัดเจน เนื่องจากอยู่ตรงกลางระหว่าง ปราสาทคนากับปราสาทตาควาย ส่วนการอยู่กินก็ช่วยเหลือตัวเอง มีหน่วยงานเข้ามาบริจาคสิ่งของให้บ้าง การหลับนอนก็อาศัยท่อลอดน้ำใต้ถนนเป็นที่หลับนอน ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ที่นี่เป็นอาสาช่วยเหลือชุดชรบ. และคอยดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเอง

ส่วนการที่ไทยสามารถยึดประสาทตาควายกลับคืนมาได้ แล้วเหตุการณ์จะสงบลง คงเป็นไปไม่ได้เพราะเขมรคงไม่ยอม จะต้องโจมตีหวังเอาคืนให้ได้แน่นอน อยากให้ทหารไทยทำให้มันจบๆ คิดว่าสถานการณ์ชายแดนคงยังดำเนินอยู่แบบนี้ต่อไปอีก ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีชาวมีบ้านอพยพกลับเข้ามาในพื้นที่ มีเพียงผู้ที่เข้ามาให้อาหารสัตว์เลี้ยงและตรวจสอบบ้านเรือนของตนเอง เมื่อเสร็จแล้วก็จะกลับออกไปทันทีเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่น่าไว้วางใจ

จากการสอบถาม นายไพฑูรย์ วรรณะ ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างอำเภอกาบเชิงกับอำเภอพนมดงรัก บอกว่า เสียงปืนดังตั้งแต่เช้ามืด จนถึงขณะนี้ก็ยังมีการระดมยิงกันอย่างหนัก ดีใจที่เราได้ยึดประสาทตาควายคืนมาได้ คิดว่าสถานการณ์การยิงปะทะคงหนักหน่วงตลอดทั้งวัน

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุรินทร์ รายงาน