จากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดน ด้านอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลา 9 วันแล้ว ทำให้ครอบครัวนายบุญช่วย พลาเกตุ และครอบครัวนางบังอร สุวิชัย รวมทั้งเพื่อนบ้านอีกหนึ่งครอบครัว รวมกัน 30 ชีวิต ในจำนวนนี้ มีคุณยายอายุ 71 ปี ซึ่งป่วยติดเตียงอยู่ด้วย พากันอพยพครอบครัวมาเช่าบ้าน จำนวน 3 หลัง ที่ชุมชนหมู่บ้านหนองตาเสี่ยง หมู่ 3 ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

ทางด้าน นางวิมล เสน่หา เจ้าของบ้านเช่า ทราบว่า ผู้ที่มาเช่าบ้านทั้ง 3 ครอบครัว อพยพหนีการสู้รบจากชายแดน ทำให้เกิดความสงสารและเห็นใจ จึงให้ครอบครัวพักอาศัยอยู่ฟรี รวมทั้งใช้น้ำ และไฟฟ้าฟรีอีกด้วย รวมไปถึงพักอาศัยอยู่ไปจนกว่าเหตุการณ์ชายแดนจะคลี่คลายเข้าภาวะสู่ปกติ

นางวิมล กล่าวต่อว่า เนื่องจากครอบครัวนายวิมลและเพื่อนบ้าน หนีร้อนมาพึ่งเย็น และเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องช่วยเหลือกัน แต่เนื่องจากผู้ที่อพยพมามีจำนวนมาก จึงต้องกางเต้นท์นอนบริเวณสนามหน้าบ้าน ซึ่งปกติตนเองเปิดให้เช่าบ้านเดือนละ 7 พันบาท ถึงแม้จะขาดรายได้ไปถึงเดือนละ 2 หมื่นบาท ตนเองก็ภูมิใจที่ช่วยเหลือพี่น้องคนไทยที่กำลังลำบาก

นายบังอร เปิดเผยว่า ตนเองและญาติๆ อยู่หมู่บ้านร่มเย็น หมู่ 9 อำเภอคลองใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างชายแดนไทย - กัมพูชา ประมาณ 5 กิโลเมตร โดยก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งทหารไทยเกิดการปะทะกับทหารกัมพูชา เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ตนเองและญาติๆ ได้อพยพมาอยู่บ้านนางวิมล แล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ตนเองและเพื่อนบ้าน จึงอพยพมาพักอาศัยที่บ้านเช่า ของนางวิมล อีกครั้ง และนางวิมล เจ้าของบ้านเช่าใจดี ตนเองและเพื่อนบ้านพักอาศัย โดยไม่คิดค่าเช่า และค่าน้ำค่าไฟฟ้า แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดระยอง รายงาน