เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ บริเวณกลางสะพานทางด่วนกาญจนาภิเษก สายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ขามุ่งหน้าถนนบางนา ในท้องที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน รถดับเพลิงเทศบาลเมืองลัดหลวง เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วน และอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ พบ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล แบบ 7 ที่นั่ง เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง รถดับเพลิงเทศบาลเมืองลัดหลวง พร้อม รถน้ำดับเพลิงกู้ภัยทางด่วน ได้ระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้รถคันดังกล่าวประมาณ 10 นาที เพลิงสงบลง
ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบ นายชาญ อายุ 50 ปี คนขับและเจ้าของรถ ยืนอยู่พร้อมภรรยา จาการสอบถามทราบว่า ทั้งสองได้ไปซื้อรถคันดังกล่าวมาจาก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็น รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า อแวนซ่า ในราคา 75,000 บาท และกำลังขับรถกลับบ้านพัก แพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขับมาปกติแต่พอมาถึงช่วงกลางสะพานกาญจนาภิเษก ได้เกิดมีกลุ่มควันและมีไฟลุกไหม้ที่ห้องเครื่องหน้ารถจึงรีบจอดข้างทางและลงจากรถทันที โดยมีรถผ่านทางได้จอดรถลงเอาถังดับเพลิงมาช่วยแต่เอาไม่ไหว เพราะลมแรงมากทำให้ไฟยิ่งแรงขึ้นจนมีรถดับเพลิงมา

จากการตรวจสอบเพลิงได้ไหม้รถคันดังกล่าววอดทั้งคัน โดยเหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นที่เกิดเหตุเพื่อ เคลื่อนย้ายรถดังกล่าวออกจากจุดเกิดเหตุ ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

นายชาญ เจ้าของรถ ได้เล่าว่า วันนี้ตนเองและภรรยาได้ซื้อรถยนต์นั่งซึ่งเป็นมือสองเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่งซื้อมาจากที่จังหวัดสุพรรณบุรี และได้กำลังขับรถกลับบ้านย่านแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนเกิดเหตุกลางสะพานได้มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากห้องเครื่องจากนั้นไฟก็ได้ลุกไหม้เสียหายทั้งคัน ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ซื้อวันนี้และไฟได้ลุกไหม้วันนี้เช่นกัน

ทางด้าน นายกฤษดา วงศ์รัตน์ อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ออกมาจากบ้านพักย่านพระประแดง และเตรียมที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ย่านพระราม 3 ขณะที่ใช้เส้นทางบนสะพานกาญจนาภิเษก ได้พบเหตุการณ์รถยนต์เจ็ดที่นั่งมีกลุ่มควันและแสงเพลิงลุกไหม้ที่ห้องเครื่องตนเองจึงได้จอดรถและพยายามเปิดฝากระโปรงเพื่อที่จะถอดแบตเตอรี่ จากนั้น ได้มีพลเมืองดีนำถังดับเพลิงมาให้จึงทำการช่วยดับเพลิง แต่ไม่สามารถระงับเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ได้ เนื่องจากด้านบนมีลมพัดค่อนข้างแรง จึงทำให้เพลิงที่ลุกไหม้ห้องเครื่อง และกลุ่มควันได้ลุกลามอย่างรวดเร็วตนเองจึงนำตัวผู้โดยสารและผู้ขับขี่ออกมาจากห้องโดยสาร ซึ่งทั้งคู่ปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีไฟลุกไหม้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน