วันที่ 9 ธันวาคม 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงรวม 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และภาคกลาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 11 - 16 ธันวาคม 2568 พร้อมกำชับให้พื้นที่เสี่ยงจัดทีมปฏิบัติการและเตรียมเครื่องจักรกลสาธารณภัยประจำจุดเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะบริเวณที่เคยเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้จับตาคลื่นลมแรงเป็นพิเศษ และแจ้งเตือนประชาชนห้ามลงเล่นน้ำ รวมถึงประสานหน่วยงานเดินเรือให้ใช้ความระมัดระวัง
ปภ. ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ระบุว่าได้ติดตามปัจจัยเสี่ยงด้านสภาพอากาศ ร่วมกับข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งได้ออกประกาศฉบับที่ 1 (374/2568) แจ้งว่า
- ในช่วงวันที่ 11 - 12 ธันวาคม ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ในประจวบคีรีขันธ์และชุมพร ขณะที่สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา จะมีฝนตกหนักมาก จากอิทธิพลคลื่นลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้
- ช่วงวันที่ 13 - 16 ธันวาคม ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่องในนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ขณะเดียวกันคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะทวีความรุนแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และมากกว่า 3 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง ส่วนอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงราว 2 เมตร และสูงกว่า 2 เมตรในพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง
พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ได้แก่
- จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
พื้นที่ที่ต้องติดตามคลื่นลมแรง ได้แก่
- จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล ท่าศาลา ปากพนัง และหัวไทร)
- จังหวัดสงขลา (อำเภอเมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร จะนะ และเทพา)
- จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก ยะหริ่ง ปะนาเระ สายบุรี และไม้แก่น)
- จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส และตากใบ)
กอปภ.ก. ได้ประสานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และทั้ง 8 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา ให้ติดตามปริมาณฝน สภาพอากาศ และระดับน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนสนับสนุนการจัดศูนย์พักพิงชั่วคราว และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างสม่ำเสมอ
ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงขอให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำและประกาศเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมความพร้อมรับมือ หากต้องการข้อมูลสามารถตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT ทั้งระบบ IOS และ Android และหากเกิดเหตุสาธารณภัยสามารถแจ้งผ่านไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ1784 (Line ID @1784DDPM) หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
