ประกาศเเล้ว! กรมอุตุฯ เปิดเเผนที่ฝนตก 24 พ.ย. - 3 ธ.ค. นี้ อากาศเเปรปรวนหนัก เตรียมอพยพหากจำเป็น
ข่าวภูมิภาค

ประกาศเเล้ว! กรมอุตุฯ เปิดเเผนที่ฝนตก 24 พ.ย. - 3 ธ.ค. นี้ อากาศเเปรปรวนหนัก เตรียมอพยพหากจำเป็น

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา โดยระบุว่า อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น และลมที่ระดับ 850hPa 1.5 กม. 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง วันที่ 24 พ.ย. - 3 ธ.ค. 68 จากแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา (TMD-WRFDA) เฉดสีแสดงถึงปริมาณฝน (มม.) สีเขียว หมายถึง ฝนเล็กน้อย สีแดง หมายถึง ฝนหนัก (มากว่า 35.1มม.)

ช่วงวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า พื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปยังคงเผชิญสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่อง หลายจังหวัดรวมถึงสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ขณะที่คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรเตรียมพร้อมอพยพหากจำเป็น

ขณะเดียวกัน บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาว โดยจะมีลมแรงในช่วง 1-2 วันข้างหน้า หลายพื้นที่อาจเกิดหมอกในช่วงเช้า ทำให้ทัศนวิสัยลดลงและส่งผลต่อการเดินทาง

สำหรับช่วงวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม 2568 มวลอากาศเย็นจากจีนมีแนวโน้มอ่อนกำลังลง แม้จะยังมีระลอกใหม่เสริมเข้ามาเป็นบางช่วงในช่วงปลายเดือน ทำให้ตอนเช้ายังคงมีอากาศเย็น แต่โดยรวมอุณหภูมิจะค่อย ๆ ปรับสูงขึ้น ส่วนฝนหนักในภาคใต้มีแนวโน้มลดลงและคลื่นลมอ่อนกำลังลง อย่างไรก็ตาม หลายลุ่มน้ำยังต้องเฝ้าระวังน้ำฝนสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมต่อเนื่องได้

ด้านสภาพอากาศช่วงวันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2568 คาดว่าจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งมีโอกาสพัฒนาเป็นพายุ แต่คาดว่าจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่อปะทะกับมวลอากาศเย็น โดยบางส่วนของระบบดังกล่าวอาจทำให้ภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่เพชรบุรีถึงประจวบคีรีขันธ์ มีฝนเล็กน้อย ส่วนภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีเมฆมากขึ้นและความชื้นในอากาศสูงขึ้น

ทั้งนี้ สถานการณ์อากาศยังมีแนวโน้มผันผวน ควรติดตามประกาศเตือนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา

เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง