วันที่ 17 พ.ย.2568 น.ส.จิราภรณ์  (นามสมมติ) อายุ 45 ปี แม่ของด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าร้องเรียนสื่อหลังลูกสาวถูกผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้น ตบใบหน้าและหักนิ้วชี้มือขวาจนได้รับบาดเจ็บ ในที่เรียนพิเศษ ช่วงเย็นของวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา

ด.ญ.เอ กล่าวว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.30 น. แม่ไปส่งที่เรียนพิเศษแห่งหนึ่ง ได้พบแม่ของเพื่อนร่วมชั้นยืนอยู่หน้าที่เรียนพิเศษ แล้วคนเปิดประตูที่เรียนพิเศษมาถึง แม่ของเพื่อนขอเปิดประตูเอง แล้ววิ่งขึ้นไปด้านบน ส่วนตนวิ่งตามขึ้นไป

และสิ่งที่เห็น แม่ของเพื่อนนำกระเป๋าขึ้นไปจองที่นั่งให้ลูกของตัวเอง แล้วตนวางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้ตัวตรงกลาง แต่แม่ของเพื่อนกลับพูดตะคอกใส่ว่า วางกระเป๋าอยู่ก่อนแล้ว และได้เลือกที่นั่งก่อน ทำให้มีปากเสียงกับแม่เพื่อน

จากนั้นแม่เพื่อนใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปตนไว้ พร้อมบอกว่า จะนำไปให้เพื่อน ๆ ดู และเพื่อนจะได้ไม่คบ ขณะที่ตนนำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้เช่นกัน ก่อนจะมีปากเสียงกันรุนแรง ถึงขั้นที่ตนหลุดพูดคำว่า ถ่ายคลิปไว้ เพื่อน ๆ ก็จะได้รู้ว่า แม่ของเพื่อนคนนี้สันดานเสีย

ทำให้แม่ของเพื่อนปัดโทรศัพท์ของตนจนตกลงพื้น แล้วใช้มือตบเข้าที่ข้างศีรษะด้านซ้ายอย่างแรง พร้อมกับหักนิ้วชี้มือขวา 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ รู้สึกชาเหมือนเป็นตะคริว จากนั้นตนก็วิ่งลงไปหน้าที่เรียนพิเศษ แล้วยังต่อว่าหนูรุนแรง ว่าหักนิ้วเพราะชี้หน้า ตนจึงโทรศัพท์ไปหาป้าให้มารับพาไปรักษา ผู้เสียหาย กล่าวว่า  รู้จักมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล และเรียนห้องเดียวกันด้วย แต่เพื่อนของหนูมีนิสัยชอบบูลลี่หนูเป็นประจำ 

ด้าน น.ส.จิราภรณ์ กล่าวว่า วันดังกล่าว ตนไปส่งลูกที่หน้าที่เรียนพิเศษ เพื่อให้ลูกขึ้นไปจองที่นั่ง จากนั้นก็ซื้อข้าวมาให้ลูก ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก และเรียนมานาน 2 ปีแล้ว หลังเกิดเหตุ ลูกโทรศัพท์มาหาตน แต่ไม่ได้รับสาย

จากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาป้า ก่อนที่ตนจะกลับไปถึงหน้าที่เรียนพิเศษ ก็พบลูกยืนร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว พร้อมบอกว่า ถูกตบ และอยากย้ายโรงเรียน แต่หากจะให้เรียนก็ต้องให้ตนนั่งเฝ้า เพราะกลัวแม่ของเพื่อนที่ชื่อ ติ๊ก (นามสมมติ) จนถึงวันนี้ก็กลัว และไม่อยากไปโรงเรียน เพราะกลัวแม่ของเพื่อนมาทำร้าย

น.ส.จิราภรณ์ กล่าวต่อว่า เคยคบหามีความสนิทสนมกันมานาน เคยช่วยเหลือกันและกันในหลาย ๆ เรื่อง แต่ระยะหลังลูกสาวของเขา ชอบบูลลี่ลูกสาวของตน กระทั่งครั้งล่าสุด ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่แม่ของเพื่อนลูกสาว พยายามจะรังแกลูกสาว เชื่อว่าทำให้ลูกหมดความอดทนเช่นกัน

น.ส.จิราภรณ์ กล่าวว่า เคยมีผู้ปกครองเด็กคนอื่นมาเล่าให้ฟังเช่นกันว่า แม่เพื่อนของลูกคนนี้ ชอบรังแกเพื่อน ๆ ลูกตัวเองอีกหลายคนที่มีปัญหา ทะเลาะกันตามประสาเด็กกับลูกของตัวเอง บางครั้งถึงขั้นไปดักรอเด็กคู่กรณีลูกตัวเองที่ใต้อาคารในโรงเรียน และหลังเกิดเหตุกับลูกสาวตนแล้ว ก็ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊ก และการพูดท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดี

ขณะที่ป้าของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ หลานโทรศัพท์มาหาตน เพราะโทรศัพท์หาน้องสาวไม่รับสาย ตนจึงบอกให้หลานไปบอกครูผู้สอนก่อน แต่ปรากฏว่า ครูผู้สอนยังไปไม่ถึงที่เรียนพิเศษ และมีเพียงคนไปเปิดที่เรียนพิเศษรอนักเรียนเท่านั้น

และเมื่อน้องสาวไปถึง ตนขับรถตามไป จนได้พบกับครูผู้สอน และได้ให้ดูภาพกล้องวงจรปิด ทำให้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น มีการยั่วยุหลานสาว และหากเป็นเหตุการณ์กับผู้ใหญ่ ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ นำหลานสาวไปแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ปกครองรายนี้แล้ว และนำไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่นิ้วชี้ ซึ่งแพทย์ได้ดามเหล็กไว้แล้ว ส่วนคู่กรณีก็ยังไม่ติดต่อมาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น