เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 พ.ย.2568 ร.ต.อ.การุณ จันทร์ดอก รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 11 ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีชาวบ้านถูกควายทำร้าย อยู่กลางทุ่งนาบ้านหนองกุง จึงประสานหน่วยกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ตอบโต้ภัยพิบัติบุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร พบร่าง นายสมจิตร (นามสมมติ)อายุ 77 ปี เสียชีวิตลักษณะนอนหงาย บริเวณลำคอถูกของแข็งแทงเป็นรูโบ๋ และมีบาดแผลฉกรรจ์ลึกเข้าไปในช่องท้อง ห่างกันประมาณ 20 เมตร พบลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนหมดสติอยู่ในป่าข้าว กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลลำปลายมาศ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ใกล้กันพบควายพ่อพันธุ์เพศผู้ สีดำ ชื่อเจ้าก้อง อายุประมาณ 4 ปี สูงประมาณ 160 ซม.น้ำหนักประมาณ 700-800 กิโลกรัม ลักษณะเขายาวแหลม โดยชาวบ้านได้จับล่ามเชือกไว้กับเสาของคอกควายไว้

สอบถามนายวสันต์ อายุ 37 ปี เล่าว่าตนเองมาติดต่อหารถเกี่ยวข้าว ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านมาบอกว่ามีควายขวิดคนได้รับบาดเจ็บ จึงรีบมาดู เพื่อให้การช่วยเหลือ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นนางไพเราะ นอนหมดสติอยู่ในนาข้าว ตามร่างกายมีร่องรอยฟกซ้ำหลายแห่ง จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลลำปลายมาศ และทราบข่าวว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ห่างกันพบเจ้าก้องนอนแช่ตัวอยู่ในปลักโคลนอย่างสบายใจ และพบว่านายสมจิตร เจ้าของควายเสียชีวิตแล้ว จึงนำเจ้าก้องไปล่ามไว้ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุที่เจ้าก้องทำร้ายเจ้าของว่าน่าจะมีอามรณ์หงุดหงิด ที่ไม่ได้ออกไปผสมพันธุ์กับตัวเมีย เลยอาจทำให้โมโห

ด้านภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกชายซื้อเจ้าก้องมาตั้งแต่อายุ 9 เดือน ในราคา 63,000 บาท เพื่อให้พ่อมีรายได้เสริม รับจ้างผสมพันธุ์ควาย แต่ช่วงนี้ชาวบ้านเกี่ยวข้าวกัน จึงยังไม่จ้างควายไปทับผสมพันธุ์ ซึ่งอาจจะทำให้เจ้าก้องเกิดอาการหงุดหงิด จึงทำร้ายสามีและลูกสะใภ้ หลังจากนี้ตนเองคงไม่เลี้ยงเจ้าก้องแล้ว ใครจะเอาไปไหนก็เอาไป เพราะทำให้คนเสียชีวิตถึง 2 ร่าง