บุกช่วยสองแม่ลูก ถูกผัวซ้อมไล่ให้ไปที่ไหนก็ไป หลังฝ่ายหญิงไม่ยอมเอาลูกออก พอเด็กเกิดมา บอกไม่ใช่ลูกตนเอง
ข่าวภูมิภาค

บุกช่วยสองแม่ลูก ถูกผัวซ้อมไล่ให้ไปที่ไหนก็ไป หลังฝ่ายหญิงไม่ยอมเอาลูกออก พอเด็กเกิดมา บอกไม่ใช่ลูกตนเอง

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2568 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ กล้าที่จะก้าว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ประสานขอความช่วยเหลือ หลังทางเพจได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจาก น.ส.มณีรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ว่าถูกสามีที่อยู่กินด้วยกันทำร้ายร่างกายเกือบทุกวัน เพราะสามีไม่พอใจที่ น.ส.มณีรัตน์ ปล่อยให้ท้องจนมีลูกสาววัย 2 เดือน พร้อมกับไล่ให้ น.ส.มณีรัตน์ กับลูกออกไปxายนอกบ้าน ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม น.ส.มณีรัตน์ ได้ตัดสินใจอุ้มลูกสาววัย 2 เดือน ไปยืนอยู่บนสะพานพระราม 7 เพื่อจะกระโดดสะพานพร้อมลูก แต่พลเมืองดีที่พบเห็นโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยไปช่วยเกลี้ยกล่อมลงมาได้ทันเวลา ต่อมา ทาง น.ส.มณีรัตน์ได้ติดต่อมาทางเพจกล้าที่จะก้าว ขอความช่วยเหลือให้พาตัวออกมาจากบ้านพักของสามีเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกายอีก

หลังได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงษ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเดินทางไปช่วยเหลือ น.ส.มณีรัตน์ กับลูกสาวออกมาจากบ้านพักของสามี ในซอยบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ก่อนจะนำตัวเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี ที่เดินทางมารอให้ความช่วยเหลือ โดยไม่พบตัวนายเต้ (นามสมมุติ) สามีที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เนื่องจากนายเต้ไปทำงานที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

น.ส.มณีรัตน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่อยู่กินกับนายเต้มา ไม่เคยถูกทำร้ายร่างกายมาก่อน แม้ตอนมาคบกันนายเต้จะมีลูกติดกับแฟนเก่ามาด้วย 2 คนก็ตาม จนกระทั่งต่อมา เมื่อตนตั้งท้องลูกสาวคนนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับนายเต้เป็นอย่างมาก และเริ่มด่าทอตน บังคับให้ตนไปเอาเด็กออก รวมทั้งตบตีทำร้ายร่างกายเรื่อยมา แต่ตนไม่ยอม จึงแอบไปฉีดยากันแท้งเพื่อป้องกันไว้ หลังจากตนคลอดลูกมาก็จะมีปากเสียงกับนายเต้ และถูกลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายเป็นประจำ โดยนายเต้บอกว่า ลูกที่คลอดออกมาไม่ใช่ลูกของเขา ทั้งๆ ที่เป็นลูกของตนกับนายเต้

จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมานายเต้ด่าทอทำร้ายตนอีก แล้วไล่ให้ตนกับลูกไปxายที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่บ้านของเขา ด้วยความน้อยใจประกอบกับตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จึงได้ตัดสินใจอุ้มลูกเดินไปเรื่อยๆ จนถึงกลางสะพานพระราม 7 ซึ่งในตอนนั้นตนยอมรับว่าคิดสั้น เหมือนชีวิตนี้ไม่มีที่พึ่งพาอีกแล้ว จนกระทั่ง มีเจ้าหน้าที่กู้กัยกับตำรวจมาเกลี้ยกล่อม และตนเห็นหน้าลูกสาวที่อุ้มอยู่จึงล้มเลิกที่จะคิดสั้น แล้วตำรวจก็พามาส่งที่บ้านและตนก็ถูกนายเต้ต่อว่าอีก จึงตัดสินใจล็อกห้องขังตัวเองอยู่ในห้อง แล้วติดต่อขอความช่วนเหลือจากทางเพจกล้าที่จะก้าว ตนตัดสินใจแล้วว่า ตนกับลูกจะย้ายออกจากบ้านนายเต้แล้วค่อยไปหางานทำเพื่อเลี้ยงลูก โดยจะขอฝากลูกไปกับทาง พม.จ.นนทบุรี ก่อน ระหว่างที่ต้องหางานทำ

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ พม.จ.นนทบุรี ได้รับตัว น.ส.มณีรัตน์ และเด็กวัย 2 เดือน ไว้ความคุ้มครองดูแล โดยจะนำตัวส่งเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ตาม พรบ.ความรุนแรงในครอบครัว และ พรบ.คุ้มครองเด็ก พร้อมกับให้ น.ส.มณีรัตน์ ลงบันทึกแจ้งความกับนายเต้ไว้เป็นหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี รายงาน