เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงาน พยากรณ์อากาศ ประจำวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ออกประกาศเวลา 17:00 น.
ระบุว่า พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมา ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง ฟงวอง (Fung-wong) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นไปบริเวณเกาะไต้หวัน ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 12–13 พฤศจิกายน 2568 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 18:00 น. วันจันทร์ ถึงเวลา 18:00 น. วันอังคาร
ภาคเหนือ
อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และตาก บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก
รวมทั้งชายฝั่ง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ฝั่งอ่าวไทย)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และยะลา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝั่งอันดามัน)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่

