หลานสุดแค้น หลังน้าสาวนำเงินก้อนสุดท้ายไปใช้ ก่อนคว้ามีดฟันเจ็บสาหัส
ข่าวภูมิภาค

หลานสุดแค้น หลังน้าสาวนำเงินก้อนสุดท้ายไปใช้ ก่อนคว้ามีดฟันเจ็บสาหัส

วันนี้ (10 พ.ย.68) วานนี้ พ.ต.ท.เปรม เตรียมตัว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยหลวง เดินทางเข้าไปจับกุม นายเบส (นามสมมติ) อายุ 25 ปี หลังจากได้หลบหนีไปอยู่บ้านพ่อในพื้นที่ ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุใช้มีดฟันเข้าที่ศีรษะนาง ห. อายุ 54 ปี ชาวบ้านหนองเป็ด ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี และเป็นน้าสาวของนายเบสด้วย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส หมอได้ทำการเย็บ 9 เข็ม ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว

หลังถูกหลานชายทำร้ายร่างกาย นาง ห.ได้ไปแจ้งความกับ ตร.สภ.ห้วยหลวง เพื่อให้ติดตามหลานชายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.68 เวลา 22.00 น.ที่บ้านของนางเหม่าในบ้านหนองเป็ด ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบกับนายเบสนอนเล่นอยู่ที่ม้านั่งหน้าบ้านของพ่อ ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและควบคุมตัวไว้ ซึ่งนายเบสมีท่าทีงุนงงและคล้ายจะขัดขืน พร้อมพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า ผมไม่ได้ใช้มีดครับ ผมใช้ไม้ตี ดูได้จากบาดแผลเลย และอธิบายเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ตนทำร้ายน้านั้น เพราะลูกของน้าเข้ามาล็อกคอแม่ของตน เขาจึงพยายามจะช่วยแม่ โดยใช้ไม้ตีไม่ได้ใช้มีดฟันอย่างที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งผมโกรธทำร้ายน้าสาวเพราะลูกสาวของน้าเอาเงินจากค่าแรงที่ผมไปทำงานได้ไป ทั้งที่เงินนั้นเป็นของตนเอง และยังเห็นว่าฝ่ายน้านำเงินไปซื้อหมูกระทะและเบียร์กินกันในขณะที่ตนไม่มีเงิน ผมทำงานแทบตายดันเอาไปซื้อหมูกระทและซื้อเบียร์กินจนหมด แบบนี้จะไม่ให้โกรธได้อย่างไร จึงเกิดอารมณ์โมโหและเข้าไปทวงถามจนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเบสไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ลูกสาวของนางเหม่าก็เถียงนายเบสวุ่น บอกว่าไม่ใช่เงินค่าแรงของนายเบสซะหน่อยที่โอนเข้าบัญชีแต่เป็นเงินของฉันเอง หากอยากได้ไปจ้างทนายเลย มีเงินจ้างทนายมั้ย

พอคุมตัวมายัง สภ.ห้วยหลวง ตร.ได้สอบถามนายเบสเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายเบสได้มาทวงเงินจากลูกสาวของน้าสาวที่อาศัยอยู่ในบ้านใกล้กันเพราะเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายค่าแรงให้ ก็คิดว่าไม่มีอะไรพอโอนเข้าบัญชีลูกสาวของน้าสาวดันพาไปซื้อหมูกระทะและซื้อเบียร์กินหมด เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท จึงทำให้ผมโกรธ

ผู้บาดเจ็บเล่าว่า วันเกิดเหตุหลังกลับจากช่วยงานพี่สาว เห็นหลานชายโวยวายเสียงดังและลูกสาววิ่งหนีออกจากบ้าน ตนกลัวลูกสาวจะถูกทำร้ายจึงรีบตามไป พบว่าฝ่ายแม่ของนายเบสถือมีดจะฟัน จึงเข้าไปห้ามจนเกิดการยื้อแย่งมีด ระหว่างนั้นนายเบสเข้ามาช่วยแม่ ดึงมีดไปได้แล้วใช้มีดฟันศีรษะตนจนได้รับบาดเจ็บ

นางเหม่า เล่าต่อว่า เงินที่เป็นเหตุทะเลาะกันเป็นเงิน 1,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากยอดที่นายจ้างของนายเบสโอนเข้าบัญชีลูกสาวของตน แต่กลับมาทวงด้วยท่าทีโวยวาย ด่าทอและกล่าวหาว่าตนเอาเงินไปซื้อหมูกระทะและเบียร์ ทั้งที่เงินนั้นเป็นของลูกสาว แม้จะเป็นหลานแท้ ๆ แต่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากมาขอโทษก็จะไม่ให้อภัย พร้อมยืนยันว่าบาดแผลเกิดจากคมมีด ไม่ใช่ไม้ตามที่ผู้ก่อเหตุอ้าง เป็นแผลยาวจนต้องเย็บ 9 เข็ม

ต่อมานาง ส. อายุ 56 ปี แม่ของนายเบส ซึ่งอยู่บ้านใกล้กัน ได้เดินมาหาและขอพูดบ้าง โดยบอกว่า ลูกชายรู้ว่านายจ้างโอนเงินมาเข้าบัญชีหลานสาว แล้วเห็นโพสต์ซื้อหมูกระทะและเบียร์มากิน จึงโมโหและเข้าไปทวงถาม จนเกิดเหตุชุลมุน ยอมรับว่าตนเองก็ถือมีดฟันลงพื้นด้วยความโกรธ และเกิดการยื้อยุดกัน ก่อนลูกชายจะเอาไม้ฟาดได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่ ลูกสาวของผู้บาดเจ็บและเป็นพี่สาวของนายเบส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้นายเบสเคยขโมยปลอกสายไฟและทุบเสาบ้านเอาเหล็กไปขาย แต่ไม่เคยนำของมาคืน จึงหักเงินจำนวน 900 บาทจากยอดที่นายจ้างโอนให้ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายทำให้เบสไม่พอใจ วันเกิดเหตุครอบครัวเพียงแค่นั่งกินหมูกระทะกัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเงินโอนเข้ามา 1,000 บาทในบัญชี โดยไม่ได้เป็นเงินของนายเบสตามที่เข้าใจผิด พร้อมยืนยันว่าเหตุทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดเรื่องเงินจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน แม่ของทั้งสองคน (เป็นแม่ของนาง ห. นาง ส. และยายของนายเบส) ก็นั่งฟังเหตุการณ์อยู่ด้วย และได้สอบถามว่า เชื่อใครในเหตุการณ์นี้ โดยยายตอบพร้อมชี้ไปทางผู้บาดเจ็บว่าเชื่อคนนี้ และบอกอีกว่าพี่น้องคู่นี้ทะเลาะกันบ่อย ห้ามก็ไม่เคยฟัง เบื่อหน่ายพฤติกรรมลูกทั้งสองมาก กลางวันยังนอนไม่หลับ แม่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ถึงจะเป็นลูก เป็นหลาน หรือเป็นเหลน ถ้าทำผิดก็ต้องรับผิด จะไปช่วยทำไมในเมื่อทำผิดจริง เบื้องต้นตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี สาขาย่อยห้วยหลวง ได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นต่อ นายเบส อายุ 25 ปี ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 พร้อมนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป