น่าสงสาร! หญิงลูกดก มีลูก 9 คน เด็ก 17 ต้องขึ้นมาเป็นเสาหลัก หาเงินเลี้ยงดู 10 ชีวิต ส่วนตัวแม่ไม่ทำงาน ติดยางอมแงม แถมปั่นสล็อตหนัก บางครั้งบังคับลูกช่วยเดินยาหายอดส่งเอเย่นต์
ข่าวภูมิภาค

น่าสงสาร! หญิงลูกดก มีลูก 9 คน เด็ก 17 ต้องขึ้นมาเป็นเสาหลัก หาเงินเลี้ยงดู 10 ชีวิต ส่วนตัวแม่ไม่ทำงาน ติดยางอมแงม แถมปั่นสล็อตหนัก บางครั้งบังคับลูกช่วยเดินยาหายอดส่งเอเย่นต์

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2568 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีให้ช่วยเหลือเด็ก 7 ชีวิต ในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หลังพบว่าแม่ของเด็กติดยาบ้าและพนันออนไลน์ปั่นสล็อตอย่างหนัก จนต้องทำยอดส่งยาให้เอเย่นต์ จึงบังคับให้ลูก ๆ ช่วยเดินยา และชักชวนคนอื่นมาเสพยา

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เปิดเผยว่า เด็กทั้ง 9 คนอาศัยอยู่ในเพิงพักเก่าทรุดโทรม สภาพความเป็นอยู่ยากลำบาก ต้องนอนเบียดเสียด ไม่มีข้าวให้กิน ไม่ได้เรียนหนังสือ และถูกปล่อยปละละเลยให้ใช้ชีวิตตามยถากรรม ขณะที่ลูกสาวคนที่ 2 อายุ 17 ปี ต้องสู้ชีวิตรับจ้างทำงานได้เงินวันละ 300 บาท เพื่อเลี้ยงดูทั้งบ้านรวม 10 ชีวิต ทั้งยาย แม่ และพี่น้อง

แต่กลับถูกแม่ข่มขู่บังคับให้เอาเงินที่หามาได้วันละ 200 บาทไปใช้หนี้ค่ายาบ้า หากไม่ยอมจะถูกทำร้ายร่างกาย เด็กสาวต้องอดทนหาเงินมาให้แม่ทุกวัน ซ้ำยังต้องดูแลน้องชายคนสุดท้องอายุ 7 ขวบที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ระหว่างพักกลางวันยังต้องกลับไปต้มโครงไก่ให้พี่น้องกินประทังชีวิต

หลังรับทราบเรื่อง ตนเอง ได้เชิญ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี และนางสาวอารีย์รัตน์ นฤดมพงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สนง.พมจ.ปทุมธานี เข้าร่วมประชุมที่มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนลงพื้นที่ทันที

จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นเพิงพักชั้นเดียวริมถนนริมคลอง 6 ตัวบ้านกั้นด้วยแผ่น ยิปซั่มเป็นสองห้อง หลังคาปูด้วยแผ่นสังกะสี ใช้ผ้าใบกั้นสายตาผู้คนภายนอก เมื่อเข้าไปสำรวจด้านใน ฝั่งซ้ายเป็นโถงนั่งเล่น มีฟูกเก่า ๆ วางอยู่กับพื้น เด็กชายวัย 7 ขวบ ซึ่งป่วยพิการทางสมองนอนอยู่บนฟูก ข้าง ๆ มีกรงเลี้ยงลูกแมวรวมกับกระต่าย และสุนัขพันธุ์ไทยอีก 1 ตัว ส่วนห้องอีกฝั่งเป็นห้องนอนรวมของเด็ก ๆ สภาพบ้านเต็มไปด้วยขยะและกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยิ่ง

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวเมย์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ลูกสาวคนโตของ นางสาวปนัดดา ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ตนมีน้องทั้งหมด 8 คน อาศัยอยู่ในเพิงพักหลังนี้ร่วมกับแม่ ส่วนพ่อได้เลิกราและตัดขาดไปนานแล้ว ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูใด ๆ

เมย์ เล่าว่า ตนรู้สึกอัดอั้นและหมดหนทาง เพราะแม่เสพยาบ้าเป็นประจำ และติดการพนันออนไลน์ปั่นสล็อตแทบทุกวัน ถึงขั้นเคยขโมยเงินที่เธอหามาได้จากการทำงานไปเล่นพนันจนหมดสิ้น สุดท้ายเธอทนไม่ไหวต้องย้ายออกไปอยู่กับแฟน เพื่อหาที่พึ่งใหม่ แต่ก็ยังต้องทำงานส่งเงินกลับมาช่วยเลี้ยงน้อง ๆ 4-5 คน ให้ได้ไปโรงเรียน และช่วยจ่ายค่ากับข้าวทุกเดือน

โดยเฉพาะน้องคนเล็กวัย 7 ขวบที่พิการทางสมอง เดินและพูดไม่ได้ ต้องกินแต่นม และอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก

เมย์ เผยอีกว่า ตนเคยร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ หลายครั้ง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบ แม่ก็มักรู้ตัวล่วงหน้าและเตรียมตัวทัน ทำให้ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้จริง อีกทั้งเธอยังกลัวว่า หากให้ข้อมูลมากเกินไป น้องพิการอาจไม่มีคนดูแล

อย่างไรก็ตาม เมย์ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบเรื่องเงินอุดหนุนเด็กพิการ ซึ่งทุกเดือนจะถูกโอนเข้าบัญชีของแม่ แล้วถูกนำไปเล่นพนันหมดทุกครั้ง อยากให้มีการเปลี่ยนผู้รับเงินมาเป็นคุณยายแทน เพื่อให้สามารถนำเงินไปดูแลน้องได้จริง พร้อมระบุว่า ปัจจุบันต้องจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียนเดือนละ 500 บาท แต่หลายครั้งก็ไม่มีเงินพอจ่าย ต้องดิ้นรนทุกทางเพื่อให้น้อง ๆ ยังได้เรียนต่อ

ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเพิงพักริมคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี ว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่ผ่านไปมาว่ามีหญิงรายหนึ่งชื่อ นางสาวปนัดดา อาศัยอยู่ในเพิงพักดังกล่าวร่วมกับลูกถึง 9 คน โดยมีฐานะยากจน สภาพความเป็นอยู่ไม่เหมาะสม อีกทั้งผู้เป็นแม่ยังมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด

เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ นางสาวปนัดดาได้ยอมรับต่อหน้าตนว่า เพิ่งเสพยาบ้าไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้ทางมูลนิธิปวีณาฯ รู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อสวัสดิภาพของเด็ก ๆ โดยเฉพาะบางรายที่ไม่ได้ไปโรงเรียน

นางปวีณา กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานตำรวจ สภ.ธัญบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกัน เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

สิ่งที่น่าตกใจคือภายในบ้านมีการมั่วสุมยาเสพติด ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเด็กและเยาวชน หลังจากนี้ กระทรวง พม. จะรับตัวเด็กชายวัย 7 ขวบที่พิการทางสมองไปดูแล ส่วนแม่จะถูกตำรวจนำตัวไปตรวจหาสารเสพติด ดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งเข้าบำบัดยาเสพติด พร้อมขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

สำหรับเด็ก ๆ ที่เหลือ เจ้าหน้าที่จะส่งต่อให้เข้ารับการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และจัดให้อยู่ในสถานที่ปลอดภัย รวมถึงส่งเข้าเรียนในโรงเรียนประจำ เพื่อให้ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

นางปวีณา ยืนยันว่า เด็กทั้งหมดจะไม่สามารถอาศัยอยู่ในเพิงพักแห่งนี้ได้อีกต่อไป เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมและเต็มไปด้วยความเสี่ยง พร้อมย้ำว่าทุกหน่วยงานจะร่วมกันทำให้เด็ก ๆ เหล่านี้มีอนาคตที่ดีและปลอดภัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดปทุมธานี รายงาน