ตร.ช่วยเด็กนักเรียนชาวเขา ถูกหลอกเป็นคอลเซนเตอร์ ช่วงปิดเทอมอ้างได้ค่าจ้างสูง
ข่าวภูมิภาค

ตร.ช่วยเด็กนักเรียนชาวเขา ถูกหลอกเป็นคอลเซนเตอร์ ช่วงปิดเทอมอ้างได้ค่าจ้างสูง

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 นางสาว ส. อายุ 55 ปี ชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้เข้าร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนด้วยน้ำตา ขอให้เป็นสื่อกลางประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยติดตามตัว น.ส.ดรีม (นามสมมติ) ลูกสาววัย 31 ปี ซึ่งสงสัยว่าถูกหลอกไปทำงานในประเทศกัมพูชา

นางสาว ส. เปิดเผยว่า ลูกสาวเคยเป็นอดีตพนักงานร้านค้าปลีก ก่อนจะลาออกมาอยู่บ้าน ต่อมาลูกสาวบอกว่าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ โดยตนได้ไปส่งลูกที่ท่ารถเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ตุลาคม ลูกสาวระบุว่าจะไปกับคนรู้จักในแอปหางานชื่อ ปิ่น ซึ่งแนะนำแอดมินชื่อ แซม ให้ชักชวนไปทำงาน

แต่สุดท้ายลูกสาวได้เดินทางไปคนเดียว โดยช่วงสายของวันเดียวกัน ลูกสาวส่งคลิปว่าถึงหมอชิตแล้ว ก่อนจะแจ้งว่าจะเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี ซึ่งทำให้ตนรู้สึกแปลกใจ จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ลูกสาวได้ส่งข้อความมาว่า กำลังขึ้นเรือ และขาดการติดต่อไป

ต่อมา นางสาว ส. พยายามติดต่อ แซม ซึ่งเป็นแอดมิน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 16 ตุลาคม ปิ่น ได้ทักกลับมาบอกว่า พี่แซมน่าจะไปเขมรแล้ว โดยไปลงเรือที่ท่าเรือผักกาด และไปขึ้นที่จังหวัดไพลิน ของกัมพูชา สร้างความร้อนใจและความเป็นห่วงให้กับผู้เป็นแม่อย่างมาก

เรื่องยิ่งน่าเป็นห่วงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 ตุลาคม) ลูกสาวได้ติดต่อกลับมาผ่านเฟซบุ๊กของบุคคลอื่นที่ชื่อ กอล์ฟ โดยแจ้งว่า ตอนนี้ถูกขังอยู่ และโทรศัพท์ถูกยึด นอกจากนี้ยังมีคนไทยอีกหลายสิบคนที่ถูกขังอยู่ด้วยกัน ซึ่งลูกสาวถูกเตือนว่า ให้ทำตามคำสั่ง อย่าดื้อ ก็จะไม่เป็นอะไร และขอให้แม่หยุดส่งข้อความใดๆ ไป เพราะคนที่ยึดโทรศัพท์ไว้จะรู้

นางสาว ส. ได้พยายามติดต่อเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ กอล์ฟ ซึ่งเป็นคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานเช่นกัน ทำให้ทราบว่า หากใครไม่ให้ทำงานก็จะถูกนำไปขังเพื่อ ขอเรื่องธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งลูกสาวเคยบอกว่าไปเปิดบัญชีที่กรุงเทพฯ ในวันที่เดินทางไป ทำให้แม่สงสัยว่าบัญชีที่ลูกเปิดไว้อาจจะถูกนำไปใช้เป็น บัญชีม้า

ผู้เป็นแม่กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดซึ้ง วอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามลูกสาวให้กลับมาอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งเตือนประชาชนที่คิดจะหางานทำว่า ให้พิจารณาทำงานในพื้นที่ที่รู้จักดีกว่า และอย่าหลงเชื่อเพจหางานที่เสนอค่าตอบแทนสูงเกินจริงในครั้งแรกอย่างเด็ดขาด โดยหลังจากนี้ ตนจะเข้าแจ้งความที่ สภ.โพธาราม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินการติดตามลูกสาวต่อไป