ความคืบหน้ากรณี เรือยนต์ลากจูงเกิดอุบัติเหตุล่มกลางแม่น้ำป่าสัก พื้นที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถกู้เรือขึ้นจากน้ำได้แล้ว หลังใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการยกเรือขึ้นจากจุดเกิดเหตุ ส่วนภรรยาของคนขับเรือที่ตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน ยังคงสูญหาย
เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากมูลนิธิพุทไธสวรรย์กว่า 10 นาย ระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายโดยกระจายกำลังดำน้ำตั้งแต่จุดเรือจม ล่องตามกระแสน้ำที่มีความลึกประมาณ 15 เมตร พร้อมเรือลาดตระเวนช่วยค้นหาตามลำน้ำป่าสัก
กรมเจ้าท่าสำนักงานพระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศปิดน่านน้ำชั่วคราว ห้ามเรือทุกชนิดสัญจรผ่าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้เรือได้อย่างปลอดภัย
ก่อนการยกเรือ นายศิราวุฒิ โพธิ์บางหวาย คนขับเรือ ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ ได้จุดธูปขอขมาแม่คงคา แม่ย่านางเรือ และเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้ภรรยาที่สูญหายถูกพบโดยเร็ว และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย
เจ้าหน้าที่บริษัทกู้เรือได้นำรถเครนขนาดใหญ่เข้าดำเนินการยกเรือขึ้นจากน้ำ โดยใช้สลิงผูกตัวเรือหลายจุด เพื่อพยุงเรือให้ตั้งตรงและไม่แกว่งระหว่างการยก เนื่องจากเรือมีน้ำหนักกว่า 40 ตัน นักประดาน้ำต้องดำลงไปผูกสลิงและปรับตำแหน่งหลายครั้ง ก่อนจะสามารถยกเรือขึ้นมาพ้นน้ำได้สำเร็จ
จากการตรวจสอบพบว่า กระจกหน้าเรือแตกเสียหาย ข้าวของเครื่องใช้ภายในเรือกระจัดกระจาย ตัวเรือได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่พบร่างของภรรยาคนขับเรือภายในตัวเรือแต่อย่างใด
ภายหลังการกู้เรือ เจ้าหน้าที่ได้นำเรือไปยังบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง เพื่อสำรวจและซ่อมแซมความเสียหายเพิ่มเติม
ด้านนายบวร วงศ์แซ่ฮ้อ อายุ 61 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเรือ เปิดเผยว่า แม่น้ำป่าสักช่วงดังกล่าวไม่ได้มีกระแสน้ำเชี่ยว จุดอันตรายจริง ๆ จะอยู่บริเวณสามแยกวัดพนัญเชิง ซึ่งขบวนเรือก็ผ่านมาได้แล้วก่อนเกิดเหตุ เชื่อครั้งเป็นอุบัติเหตุ
ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากแรงดึง จากเรือบนต์ ข้างหน้าที่ใช้ลากโป๊ะสินค้า มาด้วยความเร็ว เพื่อโค้งน้ำ้ เรือยนต์ลากจูงต้องเร่งเครื่อง แต่เรือไม่มีเบรก ทำให้เรือท้าย คัดโต่ง ต้องกลับลำเรือ เพื่อใช้ท้ายเรือในการดึงเรือโป๊ะแทนแต่ช่วงที่จังหวะกลับหัวเรือ เกิดพลิกจมลงอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เรือล่มและภรรยาคนขับเรือสูญหายดังกล่าวฃ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายพื้นที่ค้นหาลงไปตามลำน้ำป่าสักต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงาน