อยุธยาเดือดร้อนหนัก! สองตายายหนุนพื้นนอนกลางน้ำ บ้านจมครึ่งหลังนานนับเดือน
ข่าวภูมิภาค

อยุธยาเดือดร้อนหนัก! สองตายายหนุนพื้นนอนกลางน้ำ บ้านจมครึ่งหลังนานนับเดือน

วันที่ 5 ตุลาคม 2568 มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีมวลน้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 2,805 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองสาขาในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 5-10 เซนติเมตรและยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ในพื้นที่ ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและติดแม่น้ำน้อย มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน และกำลังก้าวเข้าสู่เดือนที่ 3 ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 2-4 เมตร หลายหลังคาเรือนน้ำท่วมถึงพื้นบ้าน บางหลังใกล้ถึงหลังคา พื้นที่แทบทั้งหมดของตำบลถูกน้ำท่วม เหลือเพียงถนนสายหลัก เสนา-ผักไห่ ช่วงตำบลบ้านกระทุ่มถึงตำบลหัวเวียง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ที่ยังสามารถสัญจรได้บางส่วน เจ้าหน้าที่แขวงการทางเร่งสร้างแนวป้องกันไม่ให้น้ำล้นข้ามถนน

ทางบ้านของ นางวิไล สมสุข อายุ 56 ปีและสามี นายวันชัย กลั้นดี อายุ 68 ปี บ้านเลขที่หมู่ 2 ตำบลบ้านกระทุ่ม ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องงัดพื้นบ้านและหนุนที่นอนให้อยู่ระดับหน้าต่างเพื่อพักอาศัยชั่วคราว นางวิไลเล่าทั้งน้ำตาว่า การใช้ชีวิตในสถานการณ์เช่นนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสามีป่วยเป็นโรคมะเร็ง ต้องพายเรือพาไปหาหมอ ส่วน น้องชายป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ การเคลื่อนไหวยากลำบาก ต้องอยู่ในบ้านที่รายล้อมด้วยน้ำจนแทบไม่สามารถออกไปไหนได้ เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องพายเรือออกไปใช้ส้วมชั่วคราวที่ริมถนน

ด้าน นางสาวจันทร์เจ้า โพธิ์สุทธิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลหัวเวียง เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ทั้งตำบลหัวเวียงและตำบลบ้านกระทุ่มถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว เหลือเพียงถนนสายหลักที่ชาวบ้านใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราว หลายครอบครัวนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และสัตว์เลี้ยงขึ้นมาอยู่ริมถนนเพื่อหนีน้ำ ขณะที่บางส่วนต้องพายเรือจากหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมออกมาซื้ออาหารและของจำเป็น รวมถึงรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวเพิ่มเติมว่า ถนนสายนี้ถือเป็นเส้นทางสำคัญในการเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก หากน้ำเพิ่มสูงจนไหลท่วมถนนเมื่อใด ชุมชนทั้งสองตำบลจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที