ผู้ปกครองฉุน! นักเรียน ม.1 ถูกตะขาบกัดกลางดึก ไร้ครูเวณดูแล
ข่าวภูมิภาค

ผู้ปกครองฉุน! นักเรียน ม.1 ถูกตะขาบกัดกลางดึก ไร้ครูเวณดูแล

เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความหละหลวมในการดูแลนักเรียนหอพัก หลังผู้ปกครองรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้โพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงเหตุการณ์ที่ น้องบี (นามสมมติ) หลานชายวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ของโรงเรียนชื่อดังในพื้นที่ ซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตบอลและพักอยู่ที่หอพักของโรงเรียน ถูกตะขาบกัดอย่างรุนแรงเมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา

นาย จ. อายุ 48 ปี ผู้ปกครองของน้องบี เล่าว่า หลานชายถูกตะขาบกัดขณะนอนหลับในหอพักช่วงประมาณตี 2 แต่ไม่สามารถแจ้งเหตุหรือติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครองได้ทันที เนื่องจาก ทางโรงเรียนมีกฎระเบียบให้นักเรียนทุกคนต้องถูก "เก็บโทรศัพท์มือถือ" ไว้ในช่วงที่มีการซ้อมแข่งขันฟุตบอล อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่มี ครูเวร คอยดูแลเด็ก ๆ ในหอพักเลย

น้องบีจึงต้องทนปวดอย่างแสนสาหัสจนถึงเช้า โดยมีเพื่อนร่วมห้องอีก 19 คนช่วยกันดูแลและหายาแก้ปวดเบื้องต้นให้เท่านั้น เมื่อเช้ามาจึงรีบโทรศัพท์แจ้งนายจรัญให้พาไปโรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าน้องบีมีอาการแพ้พิษตะขาบและได้ฉีดยาแก้แพ้ให้

นายจรัญ เปิดเผยว่า สิ่งที่ตนติดใจมากที่สุดไม่ใช่เรื่องที่ครูเก็บโทรศัพท์ แต่คือ การไม่มีครูเวรดูแลเด็กในช่วงกลางคืน และ การล็อคประตูหอพักในเวลากลางคืน ซึ่งทำให้เด็กไม่สามารถออกไปขอความช่วยเหลือได้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมตั้งคำถามว่า หากหลานชายตนอาการแพ้หนักกว่านี้จนเสียชีวิต ใครจะรับผิดชอบ?

สิ่งที่ทำให้นายจรัญยิ่งรู้สึกผิดหวังคือ ท่าทีที่เพิกเฉยของครูผู้ดูแล เมื่อพาน้องบีกลับไปที่โรงเรียนเพื่อซ้อมฟุตบอลต่อ ครูคนดังกล่าวกลับไม่มีคำพูดใด ๆ ไม่แสดงความรับผิดชอบ และเมื่อภรรยาของตนโทรไปพูดคุยก็ไม่ได้เรื่อง มิหนำซ้ำครูยังบอกให้นายจรัญไปพบที่โรงเรียน ทั้งที่ควรเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเด็กที่บาดเจ็บด้วยซ้ำ ผมถึงรู้ว่ามีเพื่อนหลาน 4 คนที่ผู้ปกครองไม่อนุญาตให้อยู่หอแล้ว เพราะรู้สึกว่าครูดูแลไม่ดี นายจรัญกล่าวด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยของหลานชาย

ระหว่างที่กำลังพูดคุยกับ ผู้อำนวยการโรงเรียนได้โทรศัพท์มาสอบถามอาการของน้องบีทันที โดยชี้แจงว่าตนเองเพิ่งทราบเรื่อง เนื่องจากเดินทางไปธุระที่ต่างจังหวัด ผู้อำนวยการยอมรับอย่างตรงไปตรงมากับนายจรัญว่า หากเกิดกรณีเสียชีวิต ทางครูผู้ดูแลและตนเองจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการยังได้ต่อว่าครูผู้ฝึกสอนฟุตบอลอย่างหนักถึงการละเลยหน้าที่ ไม่มีการจัดครูเวรดูแล และการปฏิเสธที่จะมาพูดคุยกับผู้ปกครองอย่างเหมาะสม ผู้อำนวยการได้กล่าวขอโทษครอบครัวของน้องบี และ รับปากว่าจะเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด ตรวจสอบเรื่องหอพักอย่างละเอียด พร้อมทั้ง จะส่งตัวแทนครูไปขอโทษน้องบีและครอบครัวอย่างเป็นทางการ

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.15 น. ของคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) ผู้ปกครองของน้องบีได้แจ้งมาว่า น้องบีมีอาการทรุดลงอย่างกะทันหัน มีอาการหายใจไม่ออก จนต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ขณะที่ทางด้านครูผู้ฝึกสอนฟุตบอลได้แจ้งว่าจะขอชี้แจงเรื่องทั้งหมดในวันนี้