วันที่ 3 ต.ค. 2568 กำนัน และ ผู้ใหญ่บ้าน แห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง พบเด็กชายวัย 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ไม่ไปโรงเรียน และสังเกตเห็นว่า ที่แก้มซ้ายเป็นรอยช้ำแดงและขอบตาช้ำ เด็กจึงบอกว่าถูกครูตี จากนั้น จึงได้ไปถามผู้ปกครองของเด็ก จนทราบว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากน้องกลับมาจากโรงเรียน พบว่าหน้าแดงช้ำ ขอบตาช้ำ
พอสอบถามลูก ลูกบอกว่าถูกครูเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ครูประจำชั้น ป.1 ใช้ฟุตเหล็กตีเข้าที่ใบหน้า จนใบหน้าแดงช้ำและขอบตาช้ำเขียว เมื่อถามลูกว่าทำไมครูถึงตี ลูกบอกว่าลืมเอาเงินไปโรงเรียน และเห็นขนมบนโต๊ะครูจึงหยิบมากิน ทำให้ครูไม่พอใจ และเอาฟุตเหล็กตีสั่งสอนดังกล่าว ซึ่งตนทราบเรื่อง แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวครูจะเอาเรื่องและไม่อยากให้ลูกมีปัญหากับครู กลัวว่าลูกไปโรงเรียนจะถูกทำร้ายอีก จึงได้เงียบไม่ได้บอกใคร
หลังจากผู้นำหมู่บ้านทราบเรื่อง จึงสอบถามไปยังโรงเรียน หลังจากนั้น ครูเอ คนก่อเหตุ ได้ขอโทษและขอไม่ให้เอาเรื่อง ซึ่งในเรื่องนี้ทางผู้นำหมู่บ้านบอกว่า เรื่องเกิดมา 3 วันแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกผิดวันนี้ หากไม่มีใครรู้ ก็คงเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหากปล่อยไว้ เด็กคนอื่นก็อาจจะถูกทำร้ายร่างกายแบบรุนแรงในลักษณะนี้อีก
ตนเองได้ให้ผู้ปกครองพาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ระบุว่า รอยช้ำที่แก้มซ้ายของน้องเกิดจากโดนวัตถุทรงแท่งไม่มีคมตี ซึ่งตนเองกำลังปรึกษาผู้ปกครอง เพื่อเอาผิดครูคนนี้ ที่กระทำการรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อเด็กซึ่งเป็นลูกศิษย์ และอายุเพียง 7 ปี เท่านั้น นอกจากนี้ ครูในโรงเรียน ยังให้ข้อมูลว่า ครูคนดังกล่าวที่ผ่านมายังมีพฤติกรรมลงโทษเด็กด้วยการขังไว้ในห้อง และมีพฤติกรรมแปลก เก็บตัวและไม่ชอบสุงสิงกับใคร
ผู้สื่อข่าวจังหวัดลำปาง รายงาน