เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา โดยระบุว่า อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น และลมที่ระดับ 850hPa 1.5 กม.10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 27 ก.ย. - 6 ต.ค.68 จากแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา (TMD-WRFDA) เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย
ช่วง 27-30 ก.ย. 68 ฝนที่ตกในระยะนี้ ยังมาจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ยังสวิงขึ้นลงอยู่บ้าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมขังในชุมชนเมือง และประชาชนที่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังต้องระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนภาคใต้เริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นจากมรสุมที่พัดปกคลุม โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งอันดามัน ขอให้ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ช่วงต้นเดือนตุลาคม (1-6 ต.ค. 68) ฝนบริเวณประเทศไทยจะเริ่มลดลงบ้าง แต่ยังมีฝนบางแห่ง ช่วงนี้ทิศทางลมแปรปรวน เป็นสัญญาณการเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล (ปลายฝนต้นหนาว) อากาศเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ต้องระวังรักษาสุขภาพ
สำหรับพายุโซนร้อนกำลังแรง บัวลอย (BUALOI) เช้าวันนี้ (27 ก.ย. 68) ศูนย์กลางยังอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ และเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 28-29 ก.ย. 68
จากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ตามแนวขอบของพายุฯ เมื่อเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม อาจจะส่งผลกระทบให้ทางตะวันออกของของภาคอีสาน บริเวณ จ. อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร มุกดาหาร นครพนม สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ มีฝนตกหนัถึงหนักมากเกิดขึ้นได้ ในวันที่ 28 ก.ย. 68 และวันที่ 29 ก.ย. 68 บริเวณด้านตะวันออกของภาคเหนือได้แก่ จ.น่าน พะเยา เชียงราย แพร่ อุตรดิตถ์ ต้องเฝ้าระวัง
พายุนี้เคลื่อนตัวเร็ว ยังต้องติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ทิศทางยังมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากพายุนี้ยังทั้งสภาพภูมิประเทศและมีมวลอากาศเย็น เป็นอุปสรรคขวางกั้น (ข้อมูลนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลง ใช้เพื่อการติดตามและวางแผนรับมือช่วงปลายฤดูฝน)
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิยา
เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์