เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 มีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุผนังกั้นน้ำสวนดงตาลแตก ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ รวมถึงอาคารบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการ ตลาดสดเทศบาล ถนนสายหลักและตรอกซอยในเขตเทศบาลต้องจมน้ำทันที
ภายหลังเกิดเหตุ นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสักและนายกเทศมนตรีเมืองหล่มสัก ได้ระดมเครื่องจักรเข้าพื้นที่ เพื่อขนแบริเออร์ ถุงบิ๊กแบ๊ก และตอม่อเสาไฟฟ้ามาปิดจุดที่ผนังกั้นน้ำแตกรั่ว โดยใช้เวลาดำเนินการต่อเนื่องกว่า 12 ชั่วโมง จนถึงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 21 กันยายน สามารถชะลอการไหลทะลักของน้ำจากแม่น้ำป่าสักได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีน้ำบางส่วนที่ไหลล้นข้ามแนวแบริเออร์และบิ๊กแบ๊กเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ แต่ปริมาณเริ่มเบาบางลงและระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจเริ่มลดลงช้า ๆ เช่นกัน
ในช่วงเช้าวันที่ 21 กันยายน ระดับน้ำบริเวณถนนสายหลักโดยเฉพาะบริเวณสี่แยกวงเวียนหอนาฬิกา ลดลงจนเหลือท่วมขังเฉพาะพื้นที่ต่ำ โดยมีความสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร ทำให้รถทุกชนิดสามารถสัญจรผ่านได้ตามปกติ
นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสัก เปิดเผยว่า ทีมกู้สถานการณ์ต้องใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อวางแนวป้องกันน้ำตลอดทั้งคืน โดยมีอุปสรรคจากแรงดันน้ำที่ทำให้แนวแบริเออร์และบิ๊กแบ๊กไม่สามารถต้านแรงน้ำได้ จึงต้องใช้ตอม่อเสาไฟฟ้าเสริมเป็นแนวต้านเพิ่มเติม จนสามารถชะลอน้ำได้สำเร็จในช่วงกลางดึก
นายภาคภูมิระบุว่า หลังจากระดับน้ำเริ่มลดลง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งเสริมความมั่นคงให้กับแนวผนังกั้นน้ำที่แตกรั่ว พร้อมทั้งเตรียมเสริมแนวผนังตลอดทั้งแนว เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำในอนาคต และในระยะยาว เทศบาลเมืองหล่มสักได้ว่าจ้างผู้รับเหมาและลงนามสัญญาเรียบร้อยแล้ว เพื่อดำเนินการก่อสร้างผนังกั้นน้ำใหม่ในจุดที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 กันยายน ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่สถานี S3 ตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก วัดได้ 9.17 เมตร ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับตลิ่งประมาณ 87 เซนติเมตร (ระดับตลิ่งอยู่ที่ 8.30 เมตร) โดยตลอดช่วงเวลา 01.00 - 06.00 น. ระดับน้ำลดลงราว 31 เซนติเมตร