เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 17 ก.ย.68 พ.ต.ท.วรุฒิพงศ์ วัฒนะปรีชาพงศ์ สว.(สอบสวน) สภ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนถนนทางเข้าโรงงานเซรามิก หมู่ 11 ต.เขาพระ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ลือชัยทองสินธุ์ ผกก.,พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ เสมสุขกรี รอง ผกก.สอบสวน,พ.ต.ท.โสภณ บุญสุวรรณ สว.สส.และตำรวจชุดสืบสวน,แพทย์เวร รพ.พิปูน และจนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งพิปูน รุดไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนพบศพผู้เสียชีวิต สภาพนอนหงายจมกองเลือด ทราบชื่อนายธนุเดช จู้ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 5 ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าใบหน้ากระสุนเจาะทะลุกะโหลกมันสมองกระจุย บริเวณพงหญ้าริมถนนห่างศพเล็กน้อยพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน คพษ - 353 นครศรีธรรมราช ล้มอยู่ และที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะนายธรุเดช ขี่รถ จยย.มาบนตามถนนมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจอคนก่อเหตุ คาดว่ารู้จักกัน ได้เรียกผู้ตายให้หยุดรถ ก่อนคุยตกลงเรื่องบางอย่าง แต่ตกลงกันไม่ได้ คนร้ายจึงชักปืนลูกซองจ่อยิงหน้านายธนุเดช 1 นัด กระสุนเจาะกะโหลก มันสมองกระจุยเสียชีวิตคาที่ แล้วคนร้ายขี่รถ จยย.หลบหนีไป หลังชันสูตรพลิกศพเสร็จ ได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา จัดการตามประเพณี

ส่วนแนวทางสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สภ.พิปูน พบว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งกันภายในครอบครัวกับนายต้น ซึ่งเป็นพี่เขย และเป็นผู้ต้องสงสัย โดยตำรวจสอบสวนพบว่า ก่อนนาย ธ. ถูกยิงตาย นาย ธ. ทะเลาะมีปากเสียงใช้เท้าแตะพี่สาว แต่เกิดพลาด แตะถูกหลานบาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนที่นายธนุเดช จะขี่รถ จยย.ออกจากบ้าน หลังเกิดเหตุพี่สาว โทรศัพท์ฟ้องนายต้น สามี ซึ่งเป็นพี่เขยของผู้ตาย ซึ่งทำสวนยางอยู่บนภูเขา ก่อนที่นายต้น จะขี่รถ จยย.ลงจากภูเขาตาหา นาย ธ.  และมาเจอในที่เกิดเหตุ แล้วมีปากเสียงทะเลาะกัน นายต้น (นามสมมุติ) จึงใช้ปืนยิงนาย ธ. น้องเมีย เสียชีวิตคาที่ แล้วหลบหนีไป ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับนายต้น ผู้ต้องสงสัยรายนี้มาสอบสวนดำเนินคดี

อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุบันทึกนาทีก่อนเกิดเหตุ คาดว่ารถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่ผ่านหน้ากล้องเวลา 20.33.07 น.ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดในเวลา 20.33.40 น.และหลังสิ้นเสียงปืนดัง 1 นัด มีรถจักรยานขี่ผ่านกล้องไปด้วยความเร็ว คาดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของคนก่อเหตุ 

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวจังหวัด นครศรีธรรมราช รายงาน