วานนี้ (15 ก.ย. 2568) AOC 1441 หรือศูนย์ One Stop Service หน่วยงานภายใต้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แก้ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ ตรวจสอบพบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ของคุณยายวัย 83 ปี ที่โอนเงินให้มิจฉาชีพ จึงแจ้งไปยังตำรวจพื้นที่ ให้เข้าไปตรวจสอบ แต่คุณยายไม่เชื่อ ด่าตำรวจตัวจริงที่หน้าบ้าน เพราะหลงเชื่อตำรวจปลอมในโทรศัพท์ จึงประสานตำรวจสน. พระโขนง
โดยเจ้าหน้าที่ตร. สน.พระโขนง จึงได้เข้าพูดคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ที่บ้านพัก ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน
ปรากฎว่าเมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่าตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชน ให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้
ล่าสุด คุณยายมาแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ (13 ก.ย. 68) ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เงินคืนข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้ง
ครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3,500,000 แสนบาท
วันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาท
วันที่ 5 กันยายน โอนไปอีก 300,000 บาท
วันที่ 8 กันยายน โอนไปอีก 300,000 บาท
วันที่ 10 กันยายน โอนไปอีก 450,000 หมื่นบาท
รวมยอดเงินที่เสียไป 4,950,000 บาท
โดยตำรวจที่รับเรื่องคนแรก คือ พ.ต.อ. ภูมิยศ เหล็กกล้า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า หากธนาคารพบความผิดปกติการถอนเงินจะส่งเรื่องมายังท้องที่ จากนั้นตำรวจในพื้นที่ก็จะทำการตรวจสอบและลงพื้นที่ทันที ซึ่งในมุมมองของตำรวจที่ทำงานมองว่า ศูนย์ AOC ถือว่าเป็นข้อดีของตำรวจ เพราะทำง่ายขึ้น
อย่างน้อยก็ทำให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก ทำให้ผู้เสียหายไม่ถูกหลอกในครั้งต่อไป และสามารถติดตามเงินมาคืนผู้เสียหายได้รวดเร็วขึ้น สำหรับคดีนี้เป็นเพราะ AOC ตรวจสอบเจอก่อน ทำให้สามารถอายัดเงินได้ 2,500,000 บาท แม้ผู้เสียหายจะยังไม่แจ้งความ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนไล่เส้นเงินบัญชีต่าง ๆ เพิ่มเติม