วันที่ 13 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ในช่วงที่มีการก่อสร้างขยายถนนสายชัยภูมิ-บัวใหญ่ บริเวณหมู่บ้านหนองกา ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เพิ่มเป็น 4 เลน มานานต่อเนื่องกว่าครึ่งปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านหลายรายยังได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างขยายถนนในครั้งนี้มาต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมและช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากปัญหาที่ประชาชนและผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขายบริเวณริมถนนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมานาน ได้รับความเดือดร้อนการค้าขาย ประกอบอาชีพขายของไม่ได้ ลูกค้าหายไปเพราะเข้ามาซื้อของที่ร้านไม่ได้ จากการก่อสร้างถนนที่ไม่มีมาตรการมาช่วยลดผลกระทบระหว่างการก่อสร้างถนนดังกล่าว บางรายถึงต้องปิดร้าน ไม่สามารถประกอบอาชีพในช่วงนี้ได้ตามมาต่อเนื่องจนปัจจุบัน
ล่าสุด ลุงป้า วัยอายุ 60 ปี ได้ร้องผ่านสื่อมวลชนให้หาทางช่วยต่อกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการด่วน หลังผู้รับเหมางานก่อสร้างขยายถนน 4 เลน ดังกล่าว ได้นำดินมาเทที่หน้าร้านค้าของชาวบ้าน และก็ไม่มีการปรับเกรดดินกองทิ้งไว้ พอช่วงนี้เวลาฝนตกดินก็หล่มแฉะเป็นโคลนตม หลากเข้ามาใส่บ้าน และยังมีการนำสิ่งของก่อสร้างมาวางขวางหน้าร้านค้า อ้างว่าเป็นถนนหลวงจนไม่มีที่สำหรับให้ลูกค้าจอดรถที่หน้าร้านค้าให้ลูกค้าได้จนไม่มีลูกค้ามาใช้บริการหายไปจำนวนมาก จนทำให้ตนเองขายของไม่ได้รายได้ลดลงมาเป็นเวลานานกว่าครึ่งปีแล้ว จนปัจจุบันต้องได้รับความเดือดร้อนมีภาระเป็นติดหนี้สินจำนวนมาก เพราะเปิดร้านค้าขายไม่ได้ จน 2 ตายยายต้องนำรถยนต์ที่มีไปเข้าไฟแนนซ์ปั จจุบันต้องเป็นหนี้สินผูกพัน เพราะไม่มีรายได้ตามมาอีกจำนวนมาก ถึงขนาดคิดสั่นจะอัตวินิบาตกรรมจบชีวิตตัวเองมาแล้ว
ตอนนี้ไม่รู้จะไปพึ่งใครได้แล้ว ขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาปรับปรุงแก้ไขและปรับพื้นผิวถนนบริเวณที่อยู่ระหว่างก่อสร้างที่บริเวณหน้าร้านตนเอง และร้านค้าใกล้เคียงเพื่อให้ลูกค้ามีที่จอดรถหน้าร้าน เพื่อที่ตนเองจะได้ขายสินค้าหรือขายอาหารตามสั่งได้เช่นเดิมโดยเร็วด้วย ซึ่งรอมานานกว่าครึ่งปีแล้ว และจะต้องรอให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการถนนของรัฐในจุดนี้ ไปจนกว่าจะก่อสร้างถนนแล้วเสร็จก็น่าจะใช้เวลาอีกนับปี แล้วชาวบ้านครอบครัวตนที่ได้รับความเดือดร้อนจะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้อีกต่อไปคงไม่ไหวสุดที่จะทนแล้ว และฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ช่วยประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นการด่วนด้วย
ด้าน นางรุ่งสุวัลย์ จันทร์แรม อายุ 64 ปี ชาวบ้านหนองกา ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่อการก่อสร้างถนนในจุดนี้ที่เกิดขึ้นอีกราย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองได้รับผลกระทบจากการทำถนนสี่เลน ผ่านหน้าบ้านตนเองมานานแล้ว โดยผู้ที่เข้ามาทำงาน ได้มีการก่อสร้าง วางท่อ เทดิน บริเวณหน้าบ้านกรีดขวางทางเข้าออกหน้าบ้านร้านค้ามาตลอด เมื่อถึงช่วงฝนตกดินก็กลายเป็นโคลนมีน้ำขังรถเข้าจอดไม่ได้ ทำให้ตนขายประกอบอาชีพขายของไม่ได้ แถมที่หลังร้าน ก็มีการนำดินมากองไว้สูงเท่าภูเขา เมื่อฝนตกดินและน้ำจากโคลนดินก็ไหลเข้ามาในบ้านทำให้มีทรัพย์สินเสียหายมาตลอดที่มีการเข้ามาก่อสร้างขยายถนนมานานกว่า 6 เดือนแล้วด้วยเช่นกัน ที่ตั้งแต่มีการขยายถนนสี่เลนมานี้
ตนเองและสามีขายของไม่ได้ยอดขายลดลงเรื่อยๆ ก็ยังต้องนำรถยนต์ตัวเองไปเข้าไฟแนนซ์หาเงินมาใช้จ่ายแทนการขายของบ้าง แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่สามารถขายของได้เนื่องจากการก่อสร้างถนนยังไม่เสร็จ ก็จำเป็นต้องไปกู้รายวันมาใช้ เพราะมีภาระต้องรับผิดชอบในครัวเรือน และส่งลูกหลานเรียนหนังสืออีกด้วย หลังจากที่ขายของไม่ได้จนมีค่าใช้จ่ายหนักมากขึ้นตามมา ตนเองก็คิดจะจบชีวิตตัวเองมาแล้ว แต่ญาติมาช่วยทัน และได้แจ้งบอกผู้รับจ้างรับเหมาที่มาก่อสร้างถนนจุดดังกล่าวไปแล้วให้ช่วยแก้ปัญหาผลกระทบจาการก่อสร้างให้ แต่ก็บ่ายเบี่ยงไม่มีใครมาดูแลแก้ปัญหาให้เลย
จนวันนี้จึงขอฝากผ่านสื่อมวลชน แจ้งไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบมาดูแก้ปัญหาผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนระหว่างการก่อสร้างถนนจุดนี้โดยเร็วด้วย นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันอีกจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างนี้ด้วย ที่อยากให้มีการลงดินอัดบด เว้นช่องว่างไว้ให้ชาวบ้านได้ทำมาค้าขายหน้าบ้านหน้าร้านค้าของชาวบ้านได้ด้วย ไม่ใช่โยนภาระให้ชาวบ้านเดือนร้อนอยู่แบบนี้กว่าจะสร้างถนนเสร็จ ชาวบ้านจะอดตายกันหมดแล้ว ผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าวโดยตรง ต้องเร่งลงมาแก้ไขเป็นการด่วนด้วย หรือจะรอให้ชาวบ้านต้องจบชีวิตให้ดูก่อนอีก
ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ รายงาน