เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 มีรายงานถึง สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำภาคกลาง พบว่าปริมาณน้ำจากพื้นที่เหนือเขื่อนที่ไหลเข้าสู่เขื่อนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อำเภอเมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2259 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้น 10 เซนติเมตรภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุด วัดได้ที่ระดับ 17.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)
เขื่อนเจ้าพระยาได้คงอัตราการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนอยู่ที่ 2000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่มีแนวโน้มว่าจะมีการปรับเพิ่มการระบายขึ้นเป็น 2100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์ เพื่อให้สอดรับกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นและเตรียมพื้นที่ว่างในลำน้ำเพื่อรองรับน้ำจากภาคเหนือซึ่งได้รับอิทธิพลจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 14-19 กันยายนและเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดกับพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำที่ประสบปัญหาน้ำท่วม
ระดับน้ำท้ายเขื่อนยังคงทรงตัวในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา วัดได้ที่ 14.68 เมตร (ม.รทก.)
กรมชลประทานยังคงแจ้งเตือน 11 จังหวัดในภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้
พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ได้แก่ คลองโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง, คลองบางบาล อำเภอบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำน้อย โดยคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20 เซนติเมตรภายใน 24 ชั่วโมง บ้านเรือนริมตลิ่งควรยกของขึ้นที่สูง
ผลจากการตรึงอัตราการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ในตำบลธรรมามูล อำเภอเมืองชัยนาท โดยเฉพาะพื้นที่นอกคันกั้นน้ำที่ระดับน้ำสูง 10-50 เซนติเมตร ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วจำนวน 25 หลังคาเรือนใน 4 หมู่บ้าน
ผู้นำชุมชนและประชาชนร่วมกับกำลังพลจากจังหวัดลพบุรีได้ทำการกรอกกระสอบทรายและนำไปเรียงเสริมคันกั้นน้ำที่มีอยู่เดิม ระยะทางประมาณ 100 เมตร เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม ซึ่งมีอีกกว่า 60 หลังคาเรือน
นายสมใจ เชื้ออภัย กำนันตำบลธรรมามูล เปิดเผยว่า ระดับน้ำปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่าระดับคันดินประมาณ 50 เซนติเมตร แต่เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 10-15 เซนติเมตร หากเขื่อนเจ้าพระยาไม่เพิ่มอัตราการระบายน้ำ คาดว่าไม่เกิน 3 วัน น้ำจะล้นคันดินและไหลเข้าท่วมพื้นที่ส่วนที่เหลือ รวมแล้วอาจมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 100 หลังคาเรือน