เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 31 ส.ค. 2568 ศูนย์วิทยุนรสิงห์ สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีรถเครนที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ช่วงตอน 4 พลิกคว่ำ บนช่องทางหลัก กิโลเมตรที่ 27 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนขับรถยนต์กระบะและผู้โดยสารที่นั่งมาในรถกระบะ ซึ่งกำลังขับผ่านบริเวณดังกล่าว แต่อยู่ในช่องทางคู่ขนาน อีกทั้งยังมีคนขับรถเครนติดอยู่ภายในไม่สามารถออกมาได้เอง
ทั้งนี้ จึงได้แจ้งให้ ร้อยตำรวจเอกสุวิทย์ มูลทรงเกียรติ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.ท.สุขุม เพาะไทสง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร และได้รีบประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนำรถอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือ ร่วมกับรถกู้ชีพ รพ.สมุทรสาคร รพ.เอกชัย และ รพ.มหาชัย
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนเดียว สีขาว ทะเบียน ยฉ 656 ชลบุรี ด้านหลังบรรทุกกล่องโฟมมาเต็มคัน ถูกบูมของรถเครนพาดทับบนหลังคารถ และยังมีท่อนเหล็กสีส้มขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 3 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแบบก่อสร้างที่ใช้กับเสาทางยกระดับถนนพระราม 2 ตกกระแทกด้านข้างของตัวรถ ขณะที่คนขับกระบะ เป็นผู้ชายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีบาดแผลที่บริเวณหัวคิ้วและมึนงงศีรษะ ส่วนแฟนสาวที่นั่งมาด้วยมีบาดแผลถลอกตามร่างกายอยู่ในอาการตกใจหวาดกลัวมากกว่า โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้ให้การปฐมพยาบาลแล้วนำส่งเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร
นอกจากนี้ ทางด้านของรถเครนที่พลิกคว่ำนั้น ก็ยังมีคนขับติดอยู่ภายใน แต่การเข้าให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นั้น ต้องมีการประสานกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสมุทรสาคร ให้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าบนเสาไฟฟ้าแรงสูงเสียก่อน เนื่องจากบูมยาว (ส่วนของเครนที่ใช้ยกเคลื่อนย้ายสิ่งของ) ไปฟาดกับเสาไฟฟ้าแรงสูงจนเกิดประกายไฟลุกไหม้ กระทั่งได้รถน้ำของ อบต.ท่าทราย มาฉีดน้ำดับประกายไฟ พร้อมกับทาง กฟภ.ตัดกระแสไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ก็ได้รีบเข้าให้การช่วยเหลือนำคนขับรถเครนออกมาได้อย่างปลอดภัย มีอาการบาดเจ็บเป็นแผลถลอกตามร่างกายเช่นกัน นำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร
จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุใช้รถเครน 2 คัน ยกท่อนเหล็กขึ้นไปจะวางนาบตรงเสาทางยกระดับ แต่รถเครนคันหนึ่งเกิดเสียสมดุลทำให้พลิกตะแคงล้มลงมา จนท่อนเหล็กแบบก่อสร้างหล่นกระแทกใส่ด้านข้างของรถกระบะที่ขับผ่านมาพอดีในช่องทางคู่ขนาน ขณะที่ความยาวของบูมก็ไปฟาดกับเสาไฟฟ้าแรงสูง ส่วนคนขับรถเครนติดภายใน ทางผู้รับเหมาก่อสร้างช่วงฯ ของโครงการจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางหลวงสมุทรสาครและเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับรีบเข้าดำเนินการคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานข้อมูลโดยละเอียดจากผู้รับผิดชอบโครงการฯ และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร รายงาน