เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 12 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายทหารอายุ 24 ปี สิบโทปรีชา เสือบัว หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัตินครสวรรค์ ได้พบกับพ่อและแม่ของนายทหารปรีชา ชื่อนายเพลิน เสือบัว อายุ 55 ปี และนางระพีวรรณ นาคบุตร อายุ 50 ปี พร้อมกับญาติๆ ได้ถือธงชาติไทย ให้กำลังใจนายทหารปรีชา
ซึ่งเป็นทหารมาได้เพียง 4 ปี และรักอาชีพของการเสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้ดำรงตำแหน่งอยู่ชายแดนไทย-กำพูชา สถานที่ช่องบกยอดภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บจากเครื่องระเบิดค.82 ของฝั่งทางกำพูชายิงเข้ามา ในวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บที่ตาข้างซ้าย รวมเพื่อนอีกสามคนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย ตอนนี้ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว จนทำให้พ่อกับแม่เป็นห่วง และได้วีดีโอคอล สอบถามเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา
ล่าสุด ทางพ่อแม่และญาติๆ ได้ถือธงชาติไทยยืนหยัดให้กำลังใจนายทหารผู้กล้าของอ.ลานสัก พร้อมกับวีดีโอคอล ไปหานายทหารปรีชา ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทหารปรีชา ได้เปิดเผยอย่างสุดระทึก ขณะนั้นได้ประจำการอยู่ที่หน่วยดังกล่าว ได้ยินเสียงเครื่องระเบิดของทางฝั่งกัมพูชายิงเข้ามา จังหวะนั้นตนเองอยู่ที่บังเกอร์ และได้ถอยตัวออกมาครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ลูกน้องเข้าไปหลบอยู่ในบังเกอร์ จังหวะนั้นเครื่องกระสุนทางฝั่งกำพูชานั้นได้ถล่มเข้ามาทันที จนทำให้ร่างของตนเองนั้นลอยกระเด็นออกไป โดยไม่รู้สึกตัว
จนมาทราบอีกทีว่า ตนเองนั้นได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาข้างซ้าย และที่ตนเองรอดชีวิตมาได้ เนื่องจากตนเองพกของขลัง หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จ.นครสวรรค์ และหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ จ.อุทัยธานี ที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา และเชื่อว่าที่น่าจะแคล้วคลาดเพราะสิ่งนี้ และยังทิ้งท้ายว่า หากตนเองต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ตนเองก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ และพยายามติดต่อไปทางหัวหน้าเพื่อไปขอรับใช้ชาติต่อ แต่ทางหัวหน้าขอให้ตนเองนั้นรักษาตัวก่อน เนื่องจากตอนนี้ ได้มีกำลังเพียงพอ หากต้องการตนเอง ตนเองก็พร้อมจะไปต่อสู้เพื่อชาติ
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุทัยธานี รายงาน