วันนี้ (28 ธ.ค. 68) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคทางเลือกใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า เดิมทีตนเองตั้งใจเว้นวรรคทางการเมือง หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งลงสมัคร กทม. เขต 7 ตนเองเคารพมติพรรค คุณสมบัติอาจจะไม่ผ่าน ก็ไม่ว่ากัน และเคารพการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์และกรรมการสรรหา และตั้งใจว่าจะเว้นวรรคทางการเมืองเพราะมันไม่ทัน

โดยเมื่อจะมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ตัดสินใจวางมือทางการเมือง ตนเองจึงตัดสินใจว่าจะพัก แต่เมื่อพี่น้องทหารผ่านศึก ที่ตนเองเป็นที่ปรึกษา ยังทำ พ.ร.บ. เงินผดุงเกียรติ ยังไม่สำเร็จตั้งแต่ปี 64-65 ที่ตนเองทำมาตั้งแต่ต้น จึงจำเป็นต้องทำต่อให้สำเร็จ พี่น้องทหารผ่านศึกบอกว่าให้ตนเองหาพรรคอยู่ให้ได้ เขาต้องการตัวแทนไปทำ พ.ร.บ. นี้ให้สำเร็จ

โดยในฐานะที่ตนเองมีประสบการณ์ได้ถูกเลือกให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และให้เป็น สส. บัญชีรายชื่อ ต้องมาจับเบอร์ในวันนี้ ซึ่งตนเองเป็นสมาชิกพรรคได้ 3-4 วัน โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้ตนเองปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการพรรคทางเลือกใหม่

ทั้งนี้ ยังมีนโยบายเงินทุนชาวบ้าน 36,000 บาทต่อครัวเรือน ไม่ได้ให้เปล่า ถ้ามีวินัยจะไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าไม่มีต้องเสียดอกเบี้ย หากไม่เป็นหนี้เสียในปีแรก จะสามารถกระตุ้นจีดีพีได้ 5% ต่อปี และประเด็นสำคัญคือมีภาษีนิติบุคคลมาหมุนเศรษฐกิจเพิ่มทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ตนเองตั้งใจว่าหากพี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจพรรคทางเลือกใหม่ เรามีสิทธิ์เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

แต่หากเสียงไม่พอ จะขอคุมกระทรวงกลาโหม เพราะเราต้องตั้งใจเพิ่มกำลังทหารเตรียมให้ประเทศไทยพร้อมรบในอนาคต เพราะสงครามหลากหลายรูปแบบ จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร และยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และเพิ่มงบประมาณของทหารปีละ 20,000 ล้านบาท เราต้องสะสมอาวุธเพราะสมเด็จฮุน เซน มีเงินจากการทำสแกมเมอร์เยอะ ดังนั้นอริราชศัตรูของเราคือกัมพูชา ซึ่งมีประเทศมหาอำนาจหนุนหลัง เราต้องเตรียมให้พร้อม ดังนั้น หากมีโอกาสได้ดูแลกระทรวงกลาโหมจะได้ดูแลทหารผ่านศึก และทหารปัจจุบัน และเพิ่มกำลังทหารอีก 200,000 นาย เพิ่มอาวุธยุทโธปกรณ์ให้พร้อมรบ ซึ่งหมายความว่าเราพร้อมป้องกันประเทศ

ผู้สื่อข่าวนครบาล รายงาน