จากกรณี สถานการณ์ความตรึงเครียดระหว่าง ไทย-กัมพูชา ที่ปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อทางทหารของไทยได้เหยียบกับระเบิด จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมกับสูญเสียขาไปอีกเป็นรายที่ 7 ซึ่งคาดว่าไม่ใช่ของใหม่ เเละเป็นของเก่าที่ทางฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ฝ่ายกัมพูชารีบออกมาปฏิเสธทันที ไม่เพียงเท่านี้ เเต่ยังกล่าวหาฝ่ายไทย และสร้างกระเเสข่าวปลอม ให้ตนเป็นฝ่ายถูกกระทำนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพื่อชี้เเจงต่อประเด็นร้อนดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Hun Manet โดยระบุว่า ขอประณามการใช้ความรุนแรงข้างไทยต่อพลเรือนกัมพูชาที่บริสุทธิ์ในหมู่บ้านเปรยจันทร์ เมื่อเย็นวันที่ 12 พฤศจิกายน 2025 ซึ่งทําให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ชาวกัมพูชาได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

การกระทํานี้ขัดต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศและขัดต่อจิตวิญญาณด้านมนุษยธรรมรวมทั้งข้อตกลงในอดีตในการแก้ไขพรมแดนอย่างสันติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอนุมัติของกลไก JBC ในการวัดและจัดหาเสาชั่วคราว และควรรักษาสถานการณ์เดิมไว้จนกว่าจะวัด เสร็จสิ้นและรอการตัดสินใจโดย JBC

ขอให้ ประเทศไทย หยุดใช้กําลังพลเรือนกัมพูชาที่บริสุทธิ์ในหมู่บ้านเปรยจันทร์ทันที พร้อมทั้งใช้กําลังแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศ ผมขอให้สืบสวนอิสระในคดีนี้และเรียกร้องให้มีการมีส่วนร่วมของพรรคต่างชาติที่มีทักษะเพื่อหาความจริง ความรับผิดชอบและความยุติธรรมแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการยิง ในเวลาเดียวกันนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินและกําลังตํารวจทุกกองดําเนินการทันทีเพื่อปกป้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิจารณาความปลอดภัยและอายุการใช้งาน

กัมพูชายังคงมั่นในปณิธานอันสันติสุขในจิตวิญญาณของการแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 26 ตุลาคม 2025 เพื่อก้าวสู่การยุติความขัดแย้งและสร้างความสงบสุขระหว่างทั้งสองประเทศ ผมขอประณามอย่างยิ่งในการใช้ความรุนแรงโดยฝ่ายไทยต่อพลเรือนกัมพูชาผู้บริสุทธิ์ในหมู่บ้านแพรยจันทร์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 พฤศจิกายน 2025 ซึ่งส่งผลให้พลเรือนกัมพูชาสามคนได้รับบาดเจ็บและการสูญเสียหนึ่งชีวิตอันน่าเศร้า

การกระทํานี้ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดต่อหลักมนุษยธรรมและข้อตกลงร่วมกันก่อนหน้านี้เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนผ่านวิธีสันติสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงที่จะอนุญาตให้คณะกรรมการร่วมเขต (JBC) ทําการสํารวจและการเปลี่ยนเครื่องหมายชั่วคราวและเพื่อรักษาสถานะไว้ จนกว่าการสํารวจจะเสร็จสิ้นและการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของ JBC ผมเรียกร้องให้ทางฝั่งไทยหยุดการใช้กําลังต่อต้านพลเรือนกัมพูชาที่บริสุทธิ์ในหมู่บ้านแพรยจันทร์ทันที และงดการใช้กําลังในการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศของเรา

ในเวลาเดียวกัน ผมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและกองกําลังรักษาความปลอดภัยทั้งหมดใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อปกป้องพลเรือนของเรา โดยให้ความสําคัญกับความปลอดภัยและชีวิตของพวกเขาอย่างแน่นอน กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาชายแดนนี้อย่างสันติสุข สอดคล้องกับจิตวิญญาณของประกาศร่วมลงนามในกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 26 ตุลาคม 2025 โดยมีเป้าหมายในการยุติความขัดแย้งและสร้างความสงบสุขระหว่างสองชาติของเรา