วันที่ 5 ต.ค.68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญ นำโดย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจยื่นจดหมายเปิดผนึก ถึง ผบ.ตร. กรณีบุคคล กลุ่มบุคคล กล่าวหาให้ข้อมูลบิดเบือนต่อสาธารณชน ให้ร้ายองค์กรตำรวจ พร้อมเปิดแถลงการณ์ร่วมสมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ชมรมรมพนักงานสอบสวน และชมรมข้าราชการตำรวจจำนาญ
สืบเนื่องจากสื่อมวลชนได้เผยแพร่ข่าว กรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือ เหยื่ออาชญากรรม และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลและ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบางราย ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพัน กับกลุ่มสแกมเมอร์และการพนันออนไลน์ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการ ดำเนินคดีเหล่านี้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจากกรณีดังกล่าว สมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อย ตำรวจ ชมรมพนักงานสอบสวน และชมรมข้าราชการ ดำรววจบำนาญ มีความห่วงไยและตระหนักถึง ความสำคัญของความเชื่อมันจากประชาชนและความจำเป็นในการดำเนินคดีอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม จึงมี ความเห็นสมควรประกาศจุดย็นและข้อเรียกร้องผ่านแถลงการณ์ ดังต่อไปนี้

1. ขอให้ทำน ผบ.ตร. เร่งรัดดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาต่อผู้กระทำผิดอย่างจริงจังและรวดเร็ว องค์กรตำรวจทั้ง 4 นี้ ขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจ เท็จจริง โดยอิสระ โปร่งใส และรวดเร็ว เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในประเด็นที่มีการกล่าวอ้างถึงการมีส่วน ของข้าราชการตำรวจกับกลุ่มสแกมเมอร์และการพนันออนไลน์ ทั้งนี้ หากปรากฏว่ามีข้าราชการตำรวจไปเกื่ยว ข้องกำกาากระทำผิดจริง ขอให้เร่งดำเนินดดีทางอาญาและวินัยอย่างเฉียบขาดต่อเจ้าหน้าที่ทุกราย โดยไม่มีข้อยกเว้นตลอดจนเร่งรัดปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์และการพนันออนไลน์ให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อรักษาศักดิ์น่าเชื่อถือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิดในทุกกรณี
2. ข้อเสนอและความเห็นต่อกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจ คือ แก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นั้น โดยหาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ มีเจตนาดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบ้านเมือง ในการแก้ปัญหา เรื่องการกระทำผิดของคนร้ายและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์ ดังนั้น ในฐานะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เอง เคยเป็นนายดำรวจชั้นผู้ใหญ่และอยู่ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาก่อน ก็ควรจะแจ้งข้อมูลที่ตน อ้างว่ารู้และมีข้อมูลอยู่ในครอบครองต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการจับกุมปราบปรามอย่างจริงจัง

แต่ไม่ใช่กระทำเพียงออกมาแถลงข่าวหรือให้ล้มภาษณ์ในเชิงให้ร้ายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชตำรวจในลักษณะเหมารวมเช่นนี้ และจากข้อเท็จริงที่ปรากฏส่วนใหญ่จะเป็นการแถลงข่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ โดยมุ่งหวังทำลายความ น่าเชื่อถือ หรือมุ่งให้ร้ายแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจ โดยในขณะเดียวกันก็มักจะพูดยกย่องถึงความรู้ความสามารถของตนเองที่ผ่านมาว่าสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ดี ไม่เป็นเช่นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการลักษณะ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น นั้น ทำให้เกิดความสับสนต่อสังคมและเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจโดยส่วนรวมด้วย
ดังนั้น ในกรณีที่ พล.ด.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่พาดพิงและกล่าวให้ร้ายต่อ สำนักงาานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจโดยรวม จนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม องค์กรตำรวจทั้ง 4 นี้ ขอเรียนชี้แจงว่า การกล่าวหาโดยปราศจากข้อมูล หรือหลักฐานที่ชัดเจน ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจโดยรวม จึงขอเสนอแนะให้ทุกฝ่ายดำรงไว้ซึ่งความเคารพในกระบวนการยุติธรรม และใช้ข้อเท็จจริงเป็นหลักฐานในการแสดงความคิดเห็น เพื่อมิให้เกิดผลกระทบภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราราชการตำรวจจอีกจำนวนมากที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชื่อสัตย์สุจริต

สมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ชมรมพนักงานสอบสวน และชมรมข้าชการตำรตำรวจบำนาญ สดงจดยืนสนับสนุนความไปร่งใลและความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงและดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมสนับสนุนให้ทุกฝ่ายใช้ข้อมูลและหลักฐานที่ถูกต้องเป็นฐานในการแสดงความคิดเห็น เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และขอขอบคุณประชาชนและสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจและติดตามสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าจะติดตามการดำเนินการทุกขั้นตอนให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคมและประเทศชาติต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน