 
                            กองทัพบกเตรียมความพร้อมรับทหารกองประจำการผลัดที่ 2 ประจำปี 2568 ที่จะรายงานตัวเข้ารับการฝึกในหลักสูตรทหารใหม่ของกองทัพบกในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เพื่อปรับสภาพจากพลเรือนเข้าสู่การเป็นทหารกองประจำการเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์

โดยปัจจุบัน พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญกับการฝึกทหารใหม่ โดยได้มอบนโยบายการฝึกให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ประกอบด้วยนโยบายที่สำคัญ ได้แก่
การคัดเลือกกำลังพลที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูฝึก และครูทหารใหม่ จะต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ทหารใหม่ และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบวินัย บทลงโทษตามธรรมเนียมทหาร รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ตลอดจนมีความรู้ด้านมาตรการป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อน และการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยระหว่างการฝึก

ให้หน่วยฝึกดำเนินการเตรียมความพร้อมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสม โรงนอนต้องมีระบบการถ่ายเทอากาศที่ดี ห้องพยาบาลต้องมีอุปกรณ์พร้อมและมีเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำการตลอดเวลา รวมทั้งจัดการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทุกนายให้มีความรู้และทักษะในการช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี
สำหรับการจัดอาหารให้ทหารใหม่ ให้ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ปริมาณเพียงพอ ถูกหลักโภชนาการและสุขอนามัย เพื่อให้มั่นใจว่าทหารใหม่จะได้รับอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

ในส่วนของหลักสูตรการฝึก ได้กำหนดให้เริ่มจากการดูแลสุขภาพกายและใจ การเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการฝึกพัฒนาทักษะอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้แนวคิด “ฝึกด้วยความเข้าใจ ฝึกด้วยความปลอดภัย และไม่มีการสูญเสีย”
โดยกรมยุทธศึกษาทหารบกได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการและกำกับดูแลการฝึกทหารใหม่ (ศูนย์ CCIR ยศ.ทบ.) เพื่อประสานการดำเนินงานร่วมกับหน่วยต่าง ๆ ได้แก่ กรมแพทย์ทหารบก สำนักงานพระธรรมนูญ และกรมกิจการพลเรือนทหารบก ในการให้คำแนะนำ ติดตาม และรายงานผลการฝึก เพื่อให้ทุกหน่วยดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ได้จัดอบรมและทดสอบความรู้แก่ครูฝึกทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกนายมีความพร้อมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยปีนี้ได้เพิ่มเนื้อหาการฝึกเกี่ยวกับการใช้และการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และการอยู่รอดในสนามรบ เพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยีและสถานการณ์ปัจจุบัน
ทีมข่าวสยามนิวส์
