เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ภายหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการพบปะพูดคุยกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการหารือเป็นการส่วนตัวในบรรยากาศเป็นกันเอง
นายอนุทินกล่าวว่า ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์อีกครั้งที่ให้ความร่วมมือในฐานะ ผู้ประสานงานหลัก ในการลงนามสันติภาพระหว่าง ไทย-กัมพูชา พร้อมยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้กระบวนการสันติภาพสำเร็จโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือถึง การลดภาษีนำเข้าสินค้าของไทยเข้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการพูดคุยต่อเนื่องจากการประชุมสุดยอดอาเซียนที่มาเลเซีย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายก่อนการลงนาม นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้นำสหรัฐฯ สนับสนุนให้ไทยได้รับ เงื่อนไขพิเศษ ที่ดีกว่าเดิม เพื่อส่งเสริมการค้าและลงทุนระหว่างสองประเทศ
ท่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับปากว่าจะไปหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โดยตรง เพื่อหาทางให้ไทยได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะเราถือเป็นประเทศมิตรที่ดีของกันและกันมาโดยตลอด นายอนุทินกล่าว
เมื่อถูกถามถึงแนวโน้มการเจรจา นายอนุทินตอบว่า การพูดคุยกับผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อจากเวทีอาเซียน โดยได้ย้ำถึงความสำคัญของการลดภาษีนำเข้าอีกครั้ง ซึ่งจากท่าทีของนายทรัมป์ที่กลับมาย้ำภายหลังเลิกงานว่า “จะไปพูดกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ แน่นอน” ถือเป็นสัญญาณที่ดีมาก และสะท้อนถึงความตั้งใจจริงของผู้นำสหรัฐฯ
นายอนุทินกล่าวต่อว่า จากทั้งการประชุมอาเซียนที่มาเลเซียและการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้ แสดงให้เห็นว่าความสนใจของนานาชาติต่อประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยไทยยังมีกำหนดหารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ เช่น นายกรัฐมนตรีแคนาดา, นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน, ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ รวมถึงภาคธุรกิจรายใหญ่ อาทิ บริษัท SK Bioscience ที่อยู่ระหว่างการเจรจากับ องค์การเภสัชกรรม เพื่อร่วมทุนผลิตวัคซีนสำคัญในไทย
บรรยากาศการพูดคุยระหว่าง นายอนุทิน และ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เต็มไปด้วยมิตรภาพและความเป็นกันเอง ทั้งสองได้จับมือและสนทนาอย่างอบอุ่น โดยผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ แตะไหล่ นายกรัฐมนตรีไทยอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะแยกย้ายกลับเข้าห้องประชุม
ชมคลิป