เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในการสัมมนาวิชาการแพทยสภาและสถาบันมหิตลาธิเบศร โดยเน้นย้ำถึงนโยบายด้านสาธารณสุข และการรับมือกับสถานการณ์ความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างหนักแน่น

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงนโยบายการรักษาพยาบาล โดยยืนยันเจตนารมณ์ว่า คนไทยต้องฟอกไตฟรีทั้งหมด ไม่ใช่แค่เฉพาะการฟอกไตทางช่องท้องเท่านั้น พร้อมทั้งกล่าวตำหนิแนวคิดที่พยายามลดทอนสวัสดิการของประชาชน โดยระบุว่า อย่าเอาชีวิตของประชาชนมาแลกกับคะแนนเสียงกระจอกๆ ไม่ได้ และย้ำว่าการให้สวัสดิการแล้วจะเอาคืนไม่ได้ เพราะจะสร้างความลำบากอย่างมหาศาลให้กับครอบครัวคนไทย

นอกจากนี้ นายอนุทินยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข โดยตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยต้องสามารถผลิตวัคซีนรับมือกับโรคระบาดได้ภายใน 180 วัน เพื่อเป็นจุดแข็งของประเทศ

ในประเด็นที่ประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับการรับมือกับปัญหาตามแนวชายแดน โดยเฉพาะกับประเทศกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ประชาชน ทำใจให้เย็นๆ และให้ความเชื่อมั่นว่า ไม่มีเสียเปรียบแน่นอน

นายอนุทินชี้แจงถึงการทำงานของรัฐบาลว่า ไม่สามารถเปิดเผยแผนการดำเนินการใด ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นแผนการรบหรือแผนการเจรจา เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเตรียมรับมือ

จะไปรบกับใครแล้วมาบอกแผนการรบได้หรือ...ขอให้ทุกท่านทราบได้อย่างเดียวว่าไม่มีทางที่คนเป็นรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จะยอมให้ประเทศของเราเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้าน นายกรัฐมนตรียังระบุด้วยว่า ปัจจุบันไม่มีการรุกรานหรือยั่วยุตามชายแดน เพราะข้อความของไทยได้ถูกส่งไปถึงอีกฝ่ายอย่างชัดเจนว่า ถ้ามาก็จัดเต็ม

นายอนุทินยังได้ยืนยันหนักแน่นถึงจุดยืนเรื่องการเปิดด่านชายแดนว่า ไม่มีเรื่องการเปิดด่าน อย่างแน่นอน จนกว่าภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทยจะหมดไป เนื่องจากได้รับฟังเสียงของประชาชนตามแนวชายแดนแล้วที่ต้องการให้คงมาตรการความเข้มงวดไว้

โดยสรุป นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะทำงานอย่าง สุขุมและรอบคอบ ตามแนวคิดที่ว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม และจะไม่ยอมให้เกิดอะไรที่ทำให้เกียรติภูมิและอธิปไตยของประเทศต้องเสื่อมเสียเด็ดขาด