วันที่ 8 ตุลาคม 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีข่าวการเสียชีวิตของ นายเมธาชาญ ยอแสง ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ได้รับการติดต่อจาก น.ส.สุภาวดี ยอแสง พี่สาวของผู้เสียชีวิต เพื่อขอความช่วยเหลือและขอคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนในการจัดการสถานการณ์อย่างเร่งด่วน

กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานว่า สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานกับ สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา และ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์เบื้องต้นอย่างละเอียด ก่อนที่สำนักงานประสานงานชายแดนฯ จะยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วจริง

กรณีที่มีข่าวว่าโรงพยาบาลในกัมพูชาอาจปฏิเสธการให้การรักษาผู้ป่วยนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบข้อเท็จกับโรงพยาบาลท้องถิ่นเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และหากพบว่ามีข้อบกพร่องหรือความไม่ชอบมาพากลในการปฏิบัติหน้าที่ของโรงพยาบาล สถานกงสุลใหญ่ฯ จะนำข้อมูลไปประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ ขณะนี้สถานกงสุลใหญ่ฯ กำลังประสานงานกับ ตำรวจท้องถิ่นของกัมพูชา เพื่อจัดทำหนังสือรับรองการเสียชีวิตและออกใบมรณบัตรของผู้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่าร่างของผู้เสียชีวิตจะสามารถส่งกลับมายังประเทศไทยได้ภายใน วันพุธที่ 8 ตุลาคม 2568 ผ่าน จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต-บ้านคลองลึก จ.สระแก้ว โดยทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานกับญาติของผู้เสียชีวิตให้เดินทางไปยังจุดผ่านแดนเพื่อรับร่าง พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทางและพิธีทางศาสนาตามความเหมาะสม

สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิต ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลการพิสูจน์ร่างจากตำรวจของกัมพูชา โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะติดตามและรายงานผลให้ญาติและประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สำนักงานประสานงานชายแดนฯ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของไทยและกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกในกระบวนการส่งและรับร่างผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ทั้งนี้ กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการเสริมสร้าง ความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ระหว่างประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนไทยที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่มีความซับซ้อนด้านกฎหมายและการประสานงานระหว่างประเทศ