วันที่ 25 กันยายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงคมนาคมเป็นวันแรก โดยได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงก่อนเริ่มงานอย่างเป็นทางการ

นายพิพัฒน์กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในทุกมิติ ทั้งระบบคมนาคมทางบก ทางน้ำ ทางรางและทางอากาศ โดยจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ในประเทศ

เขายังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 4 เดือนก่อนการยุบสภาตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ จึงขอให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมกันเร่งรัดการดำเนินงาน โดยเฉพาะการผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2569และขอให้ข้าราชการในกระทรวงทุกคนร่วมมือกันทำงานเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

ในส่วนของการลงพื้นที่ตรวจราชการในต่างจังหวัด นายพิพัฒน์ขอความร่วมมือว่า ให้จำกัดจำนวนผู้ร่วมเดินทางเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็น เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน

สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งใช้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป จะกลับมาใช้ราคาค่าโดยสารตามอัตราเดิม ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนและตามมติคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้สิ้นสุดในเดือนกันยายน 2569 อย่างไรก็ตาม ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ จำเป็นต้องพิจารณาทบทวนอีกครั้งและคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

ในประเด็นข้อพิพาทกรณีที่ดินเขากระโดง นายพิพัฒน์เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว โดยยืนยันว่ากรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้แถลงชัดเจนว่าเป็นหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ยืนยันว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่งได้ให้สัมภาษณ์ไว้แล้วว่าการรถไฟฯ จะดำเนินคดีกับผู้ครอบครองทั้ง 995 แปลงและยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือการที่นายกรัฐมนตรีในปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคที่ดูแลกระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดิน