เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เดินทางมาร่วมบรรยายพิเศษให้แก่นักเรียน เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และบทบาทของคนไทยทุกคนต่อการปกป้องประเทศ
โดยระหว่างการบรรยาย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เล่าถึงสถานการณ์ของทหารแนวหน้า โดยฝากข้อความถึงพี่น้องคนไทยว่า หากประชาชนสู้ ลูกหลานสู้ ทหารก็จะสู้เช่นกัน พร้อมย้ำว่าขอเพียงกำลังใจจากคนไทย ทหารก็จะปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร เราไม่ต้องสงสัยว่าทหารไทยจะสู้หรือไม่ เพราะเราจะปกป้องแผ่นดินที่บรรพบุรุษรักษาไว้ ใครรุกล้ำดินแดนเราต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น การรบทั้งหมดเกิดขึ้นในประเทศไทย
ขณะเดียวกันแม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าทรงห่วงใยสถานการณ์อยู่เสมอ โดยจะมีการสอบถามข้อมูลจากแม่ทัพทุกวัน ผ่านกองงานของพระองค์ และรายงานให้ทรงทราบเป็นประจำ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงบทบาทของพระมหากษัตริย์ในฐานะจอมทัพไทย ที่ยังคงเป็นองค์นำของกองทัพเช่นเดียวกับในประวัติศาสตร์ ทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติและปฏิบัติหน้าที่อยู่ในแนวหน้า ไม่ว่าการเจรจาจะยุติหรือสถานการณ์จะยืดเยื้อ
ช่วงหนึ่งของการบรรยาย นักเรียนได้ตั้งคำถามกับแม่ทัพว่า หากขอพรได้หนึ่งข้อ อยากได้สิ่งใด ด้านเเม่ทัพตอบว่า ลุงแม่ทัพอยากให้ประเทศไทยสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ไม่มีความเดือดร้อน ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น นอกจากนี้ยังมีคำถามว่าหากไทยถูกรุกรานจะทำอย่างไร แม่ทัพตอบอีกว่า จะปฏิบัติเช่นเดียวกับที่เคยดำเนินการกับกัมพูชา
ต่อมาในระหว่างการตอบคำถาม นักเรียนคนหนึ่งตะโกนคำว่า F-16 ทำให้แม่ทัพยิ้มและตอบว่า F-16 ก็ใช้เหมือนกัน พร้อมอธิบายว่าจะแสดงแผนที่เพื่อยืนยันเขตแดนไทย หากมีการรุกล้ำและไม่ถอนกำลัง ก็จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ผลักดันออกจากพื้นที่ และหากตนยังดำรงตำแหน่งแม่ทัพอยู่ จะตอบโต้การรุกล้ำด้วยการเข้าตีทันที ไม่เจรจา เพราะมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องอธิปไตย
แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวถึงคำถามที่นักเรียนอยากรู้ว่าเหนื่อยกับสิ่งใดมากที่สุด โดยตอบว่า ไม่เคยเหนื่อย เพราะการทำหน้าที่เพื่อชาติไม่มีเวลาป่วยหรือมีปัญหากับคนในประเทศ ภารกิจหลักมีเพียงการขับไล่ศัตรูออกจากเขตแดน และต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
ในช่วงท้าย พลโทบุญสินได้ฝากข้อคิดถึงเยาวชนเกี่ยวกับการเสพสื่อ ให้ระมัดระวังต่อข่าวที่มีเนื้อหาแตกความสามัคคี ใส่ร้าย ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือสร้างความขัดแย้ง ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเชื่อ
ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวถึงความสำคัญของธงชาติไทย โดยอธิบายความหมายของแต่ละสีว่า สีแดงคือชาติและการเสียสละเลือดเนื้อของบรรพบุรุษเพื่อรักษาแผ่นดิน สีขาวคือศาสนาและความดีงามที่ยึดถือมั่น ส่วนสีน้ำเงินคือพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพและผู้สร้างบ้านเมืองมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน พร้อมย้ำว่าธงชาติไทยต้องอยู่คู่แผ่นดินตลอดไป และคนไทยทุกคนต้องช่วยกันรักษาไว้ให้ครบทั้งสามสี