เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงข่าวถึงกรณีที่ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งทางพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ประกาศแผนเกษียณอายุราชการซึ่งจะมีขึ้นในอีก 51 วัน พร้อมทั้งดำเนินการ 2 ประการคือ การยึดปราสาทตาควาย ซึ่งกัมพูชาระบุว่าตั้งอยู่ในอำนาจอธิปไตยของตน และการประกาศปิดปราสาทตาเมือนธม ซึ่งกัมพูชาก็อ้างว่าอยู่ในเขตแดนของตนเช่นกัน

พลโทหญิงมาลี ระบุว่า แถลงการณ์ของแม่ทัพภาคที่ 2 ถือเป็นหลักฐานชัดเจนของความพยายามที่ยั่วยุและมีการวางแผนล่วงหน้าในการบุกรุกอำนาจอธิปไตยและบ่อนทำลายความซื่อสัตย์ของอาณาเขตกัมพูชา อีกทั้งยังถือเป็นการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงที่ได้บรรลุในที่ประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และขัดต่อจิตวิญญาณของการประชุมวิสามัญคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย โดยที่ประชุมได้เห็นพ้องในข้อที่ 2 ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องไม่เคลื่อนย้ายกองกำลังและงดการลาดตระเวนเกินจุดที่ตั้งปัจจุบัน

ขณเดียวกัน ฝ่ายกัมพูชาย้ำว่า ยังคงยึดมั่นในหลักการสันติภาพและการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยรักษาหลักการเหล่านี้อย่างจริงใจ เพื่อแก้ไขข้อพิพาทชายแดนและฟื้นฟูสันติภาพให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ อีกทั้งกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังขอให้นานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการหยุดยิง ช่วยกระตุ้นให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงทั้งในวาจาและการปฏิบัติ โดยเฉพาะการยุติความรุนแรงทุกประเภท และการถอนรั้วลวดหนามออกจากดินแดนอธิปไตยของกัมพูชาทั้งหมด

ทั้งนี้ พลโทหญิงมาลี โสเจียตา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ชายแดนในปัจจุบันอยู่ในภาวะสงบ ดังนั้น ทั้ง 2 ประเทศควรร่วมกันปรับปรุงบรรยากาศให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจบั่นทอนความสงบ ความมั่นคง และความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ซึ่งไม่เพียงเป็นความต้องการของคนทั้งสองชาติ แต่ยังเป็นสิ่งที่ประชาคมโลกต้องการเห็นด้วยเช่นกัน

ภาพจาก กองทัพบก ทันกระแส

ขณะเดียวกัน เพจ กองทัพบก ทันกระแส ได้โพสต์ข้อความอ้างถึงคำพูดของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ขณะนี้เราอยู่ห่างปราสาทตาควาย 30 เมตร เรายังยืนยันว่าปราสาทตาควายเป็นของเราอยู่ เพียงแต่ว่าในห้วงต่อไป เราต้องดำเนินการต่อ เพื่อนำกลับคืนสู่พี่น้องประเทศไทยให้ได้

เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์