เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินเดือนทหารส่วนพระองค์ พร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อแจกจ่ายแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการเสริมขวัญกำลังใจในห้วงสถานการณ์ตึงเครียด

ด้านกองทัพไทยเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยทีมโฆษกได้แสดงแผนที่และภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังตั้งแต่ปี 2497 จนถึงปัจจุบัน ยืนยันว่าทหารกัมพูชารุกล้ำเขตแดนไทยหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี พบการขุดคูเพลาะ ตัดต้นไม้ และขวางเส้นทางลาดตระเวน ซึ่งเข้าข่ายละเมิดบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา (MOU 2543) ที่ห้ามมิให้มีการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ที่ยังไม่สามารถปักปันเขตแดนได้

ข้อมูลจากกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยความมั่นคง ระบุว่ากัมพูชาได้ละเมิด MOU ดังกล่าวแล้วถึง 651 ครั้ง โดยฝ่ายไทยเคยยื่นหนังสือประท้วงหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จนนำไปสู่เหตุปะทะเมื่อ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังทหารไทยถูกยิงขณะเข้าตรวจสอบพื้นที่รุกล้ำ

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฝ่ายไทยได้ใช้มาตรการควบคุมจุดผ่านแดน โดยให้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีและกองกำลังบูรพามีอำนาจในการเปิด-ปิดด่านชายแดน รวมถึงพิจารณาตัดน้ำและไฟฟ้าหากกัมพูชายังไม่ถอยจากจุดพิพาท แม้จะมีการตกลงให้วางกำลังกลับแนวเดิมและหารือผ่านคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่น แต่ไทยยังคงจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ วันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูต เป็นประธานร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นที่ปรึกษา

ในขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันหลังประชุม ครม.ว่า รัฐบาลไทยจะไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกในกรณีพิพาทนี้ และย้ำว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงหลังมีการหารือกับผู้นำกัมพูชา โดยรัฐบาลไทยยังคงเน้นการใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน กลุ่มภาคประชาชน นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายจตุพร พรหมพันธุ์ และแกนนำภาคประชาชนอีกหลายราย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างจริงจัง พร้อมเตือนว่าหากยังเพิกเฉย อาจมีการเคลื่อนไหวของประชาชนอีกระลอก

เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์