วันที่ 4 ธ.ค. 2568 การเปิดตัว iOS 26 ของ Apple ในปีนี้ ทำให้เกิดข้อกังวลในผู้ใช้งานบางส่วนขึ้น หลังจากที่พบว่า iPhone 17 16 และ 15 ถูกตั้งค่าเริ่มต้นในลักษณะที่มีความเสี่ยง โดยไม่รู้ตัว และอาจเปิดช่องให้ข้อมูลถูกดึงออกจากเครื่องได้หากใช้สายชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมที่ไม่ปลอดภัย
ปัญหาเริ่มจากการอัปเดต iOS 26 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการดึงข้อมูลลับจาก iPhone ด้วยสายชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมที่เป็นอันตราย
เมื่อผู้ใช้ปลดล็อค iPhone ครั้งแรกหลังจากการรีเซ็ตหรือปิดเครื่อง อุปกรณ์จะสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB-C ได้ Apple จึงเพิ่มฟีเจอร์ หมดเวลา 72 ชั่วโมง เพื่อทำการรีเซ็ตระบบเครื่องกลับไปให้เป็นสถานะก่อนที่จะปลดล็อก เพื่อป้องกันการถูกโจมตี หรือขโมยข้อมูลจากผู้ไม่หวังดี
อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าที่ควรจะเป็นการ ถามก่อนทุกครั้ง หรือ ถามเฉพาะอุปกรณ์ใหม่ กลับถูกตั้งค่าเริ่มต้นเป็น อนุญาตอัตโนมัติเมื่อปลดล็อกเครื่อง ซึ่งหมายความว่าเพียงแค่ผู้ใช้ปลดล็อก iPhone แล้วเสียบสายลงบนอุปกรณ์ใดก็ตาม รวมถึงสายที่มีมัลแวร์ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทันที

ประเด็นนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะข้อมูลในโทรศัพท์จำนวนมาก เช่น รูปภาพ ข้อความ หรือไฟล์ต่าง ๆ จะถูกเก็บแบบไม่เข้ารหัสเมื่ออยู่ในเครื่อง แม้แต่แอปฯ แชตที่มีระบบเข้ารหัสอย่าง WhatsApp หรือ LINE ก็ไม่ได้ป้องกันข้อมูลเมื่อเครื่องถูกปลดล็อกแล้ว จึงเป็นช่องโหว่สำคัญที่ผู้ไม่หวังดีสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
แม้การเปลี่ยนตั้งค่าจะทำได้ง่าย เพียงเข้าไปที่ Settings > Privacy & Security > Wired Accessories แล้วเลือก Always Ask หรือ Ask for New Accessories แต่ผู้ใช้หลายคนกลับเจอปัญหาใหม่ นั่นคือ ไม่สามารถกดเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นบั๊กที่พบมาตั้งแต่เดือนกันยายน และยังไม่ได้รับการแก้ไขในเวอร์ชันปัจจุบัน Apple ยืนยันว่ากำลังเตรียมแก้ไข แต่ยังไม่มีกำหนดชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่าที่ใช้พอร์ต Lightning ก็ไม่ได้รับฟีเจอร์ป้องกันใหม่เลย ทำให้ต้องพึ่งพาตัวเลือกเดิมที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการรับมือกับการโจมตีแบบเดียวกัน
เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า แม้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเพียงใด ความผิดพลาดเล็ก ๆ อย่างการตั้งค่าที่ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้โทรศัพท์ซึ่งเก็บข้อมูลสำคัญแทบทุกอย่างในชีวิตประจำวัน ตกอยู่ในความเสี่ยงได้อย่างง่ายดาย
ทั้งนี้ ผู้ใช้ iPhone จึงควรตรวจสอบการตั้งค่าด้าน USB-C ด้วยตนเองเป็นอันดับแรก และหากเจอบั๊กที่ทำให้ปรับไม่ได้ ควรหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อกับสายหรืออุปกรณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจจนกว่า Apple จะออกอัปเดตแก้ไข เพราะท้ายที่สุด แม้ระบบจะดีเพียงใด ความปลอดภัยก็เริ่มต้นจากการใช้งานอย่างระมัดระวังเสมอ
ข้อมูล forbes